เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ห้องประชุม ชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท. หัวหมาก นายชูเกียรติ สิงห์สูง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2566 มีวาระสำคัญคือเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาคนพิการฯ คนใหม่ หลังจาก นายชูเกียรติ ที่ดำรงตำแหน่งมา 2 สมัย (8 ปี) หมดวาระลงเมื่อ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา
การประชุมครั้งนี้มีสมาชิกและตัวแทนเข้าร่วมทั้งหมด 39 จาก 40 หน่วยงาน แต่มีสิทธิเลือกตั้งได้ 38 หน่วยงาน ซึ่งที่ประชุมได้แต่งตั้งให้ นายศุภชีพ ดิษเทพ อุปนายกสมาคมฯ เป็นประธานการเลือกตั้ง ก่อนจะมีการเสนอชื่อ นายไมตรี คงเรือง เลขาธิการและประชาสัมพันธ์ สมาคมกีฬาคนพิการฯ ขึ้นเป็นนายกสมาคมกีฬาคนพิการ คนใหม่ วาระ 4 ปี (พ.ศ.2567-2571) แบบไร้คู่แข่ง โดยได้รับความไว้วางใจ 37 เสียง และเป็นบัตรเสีย 1 ใบ
นายไมตรี คงเรือง นายกป้ายแดง กล่าวว่า ขอขอบคุณสมาชิกที่เลือกให้ตนเป็นนายกสมาคมฯ คนต่อไป ที่ผ่านมาเป็นนักกีฬา 18 ปี และทำหน้าที่บริหารงานมา 8 ปี จะนำความรู้ประสบการณ์มาพัฒนากีฬาคนพิการให้ได้มากที่สุด โดยเป้าหมายใหญ่ของเราอยู่ที่ศึกพาราลิมปิกเกมส์ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเราจะทำหน้าที่ในฐานะองค์กรที่พัฒนาสนับสนุนคว้าเหรียญให้ได้มากที่สุดให้มากกว่าครั้งที่ผ่านมา
“อย่างไรก็ตาม เราไม่ลืมรากฐานเดิม โดยจะลงไปดูแลแหล่งผลิตนักกีฬาทั้งตามโรงเรียน ศูนย์ฝึกอาชีพ และองค์กรต่างๆ ที่เป็นต้นน้ำของเรา ขณะที่กลุ่มนักกีฬาก็จะเตรียมทีมกันอย่างเข้มข้นมากขึ้น เพื่อให้การคว้าเหรียญ พาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นไปตามเป้าหมาย”
นายไมตรี กล่าวต่อว่า ปัญหาหรืออุปสรรคที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ได้จากที่นั่งตำแหน่งเลขาฯ ก็ได้ทำงานตรงนี้ตลอด ปัญหาเร่งด่วน คือ การเตรียมทีมไปพาราลิมปิกเกมส์ ทั้งการควอลิฟายหรือการเตรียมสู่การแข่งขันรอบสุดท้าย ซึ่งจะพยายามคุยกับ กกท. และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เพื่อให้นักกีฬามีความพร้อมมากที่สุด
นายไมตรี กล่าวอีกว่า สมาคมฯ จะมีเกณฑ์ที่จริงจังมากขึ้น ในเรื่องของสวัสดิการ ซึ่งจะแบ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับสวัสดิการเต็ม และสวัสดิการ 7-8 อย่าง ลดหลั่นลงไป รวมถึงหันไปสร้างนักกีฬาจากทั้ง 5 ภาค โดยอาศัยฐานเครือข่ายของเรา นอกจากนี้ยังมีความตั้งใจที่จะผลักดันคนในองค์กร เข้าไปทำงานกับคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ในตำแหน่งเลขาธิการฯ เป็นอย่างน้อย
“สิ่งอื่นๆ ที่ต้องการผลักดันคือ นักกีฬาทุกคนจะต้องได้รับทุนการศึกษาอย่างน้อยคือจบปริญญาตรี นอกจากนี้ยังอยากให้มีบัตรการรักษาพยาบาล ที่เป็นสิทธิของนักกีฬาคนพิการ เมื่อรับใช้ชาติก็อยากให้ทุกคนได้รับสวัสดิการที่ดี พร้อมทั้งผลักดันเงินรางวัลในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นานาชาติ ทุกการแข่งขันต้องได้อย่างน้อย 60 เปอร์เซ็นต์ของทัวร์นาเมนต์คนปกติ อย่างเช่น เอเชียนพาราเกมส์ จากเดิมเหรียญทอง 1 ล้านบาท ควรจะต้องเป็น 1.2 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราจะค่อยๆ ผลักดันต่อไป” นายกกีฬาคนพิการคนใหม่ กล่าวทิ้งท้าย.