ร.ท.กิตตินันท์ กันทพนม อายุ 30 ปี นักศึกษาระดับปริญญาโท รุ่นที่ 8 หลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการบิน สถาบันการบินพลเรือน(สบพ.) เปิดเผยว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทำงานเพื่อประชาชน และประเทศชาติ ในฐานะนักบินกองร้อยบินปีกหมุนโจมตี กองพันบินที่ 41 กรมบินศูนย์การบินทหารบก ช่วยราชการกองพันซ่อมบำรุงเครื่องบินทหารบก โดยได้ปฏิบัติหน้าที่นักบิน ฮ.ปภ.32 ทำการบินเฮลิคอปเตอร์  KA-32 ในการโปรยโฟม เพื่อช่วยดับเพลิงไหม้บริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตโฟมและเม็ดพลาสติก โดยได้ทำการบินตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 5 ก.ค.64 จนถึงเย็น และทำการบินอีกครั้งในช่วงเช้าของวันที่ 6 ก.ค. จนกระทั่งเพลิงดับ

ร.ท.กิตตินันท์ กล่าวต่อว่า ภารกิจในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และกะทันหันมาก ซึ่งขณะนั้นเฮลิคอปเตอร์ KA-32 ทั้ง 2 ลำ จอดประจำการอยู่ที่กองพันซ่อมบำรุงเครื่องบินทหารบก จ.ลพบุรี เมื่อได้รับแจ้งเหตุใครพร้อมก็ขึ้นทำการบินทันที โดยเวลานั้นตนมีความพร้อม จึงได้ร่วมทีมกับนักบิน และช่างอากาศยานรวม 15 คน เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ทันที อย่างไรก็ตามภารกิจดังกล่าวเป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้ว โดยเป็นความร่วมมือของกองทัพบก (ทบ.) และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) ในการช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ ของประเทศ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 62 โดยก่อนจะมาปฏิบัติภารกิจด้านนี้ ได้ไปเรียนฝึกการบินอยู่ที่ประเทศรัสเซียประมาณ 2 เดือน

ร.ท.กิตตินันท์ กล่าวอีกว่า สำหรับการช่วยดับเพลิงที่บริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัดนั้น ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ทั้ง 2 ลำ โดยในการขึ้นบินแต่ละครั้งจะใช้นักบิน 2 คน ช่างซ่อมอากาศยาน 2 คน และชุดกู้ภัยของ ปภ. อีกประมาณ 3-4 คน ซึ่งการขึ้นบินได้ทำการโปรยโฟม เนื่องจากเป็นไฟที่เกิดจากสารเคมี ใช้น้ำดับไม่ได้ จึงต้องใช้โฟมเข้าไปดับ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังคงติดตาม และเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดไฟปะทุขึ้นมาอีก ก็จะทำการบินเข้าไปช่วยเหลือในทันที ยอมรับว่าในการปฏิบัติการบินแต่ละครั้งมีความกลัว แต่เมื่อเราเลือกที่จะมาทำหน้าที่ตรงนี้แล้ว ก็ต้องเก็บความกลัวไว้ในใจ ซึ่งเมื่อภารกิจเสร็จสิ้นได้เห็นรอยยิ้มของประชาชน เท่านี้ก็ถือว่ามีความสุข และคุ้มค่ากับการแลกกับความกลัวแล้ว

ร.ท.กิตตินันท์ กล่าวด้วยว่า การได้ทำหน้าที่ครั้งนี้เป็นการแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่า ทหารมีภารกิจหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่ทำสงคราม แต่ยังมีภารกิจช่วยเหลือประชาชนด้วย ซึ่งในฐานะตัวแทนกองทัพบกที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้ รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมกับ ปภ. และหน่วยงานต่างๆ ช่วยเหลือ และทำงานใกล้ชิดประชาชน โดยที่ผ่านมาได้ร่วมภารกิจมากมาย อาทิ การดับไฟป่า และเหตุการณ์อุทกภัยที่ จ.นครศรีธรรมราช อย่างไรก็ตามนอกจากการทำงานแล้ว ยังใช้เวลาวันเสาร์-อาทิตย์ ศึกษาต่อระดับปริญญาโท หลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการบิน สบพ.ด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ชั้นปีที่ 2  กำลังทำหัวข้อวิจัยเรื่อง ปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จในการปฏิบัติงานร่วมกับ ปภ.ด้วยเครื่องเฮลิคอปเตอร์ KA-32 อย่างปลอดภัย ซึ่งวิจัยชิ้นนี้จะเกิดประโยชน์ให้กับคนรุ่นหลังที่จะมาทำงานทางด้านนี้ที่ค่อนข้างมีความเสี่ยงต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทีมผู้ปฏิบัติภารกิจควบคุมเพลิง พื้นที่ จ.สมุทรปราการ โดยเฮลิคอปเตอร์  KA-32 ในการโปรยโฟม มีทั้งหมด 15 คน ประกอบด้วย นักบิน 5 คน ได้แก่ พ.ท.มนต์ศักดิ์ ประเสริฐสังข์, ร.อ.สัมพันธ์ รอดศิลา, ร.อ.ศรัณยู ศรีตานัน, ร.ท.กิตตินันท์ กันทพนม และ ร.ท.ปฐมพงษ์ มั่งมี, ช่างปฏิบัติงานในห้องนักบิน 3 คน ได้แก่ ร.อ.ประสิทธิ์ มังสระคู, จ.ส.อ.อรรถพล แสงอิ่ม และ จ.ส.อ.กฤษฎา แพรสี, ช่างระบบเครื่องยนต์ 3 คน ได้แก่ จ.ส.อ.ภูเบศ ลาภะสัมปัน, จ.ส.อ.สุพจน์ โสมใจบุญ และ จ.ส.ท.อนุชิต แย้มธูป, ช่างระบบไฟฟ้าอากาศยาน 3 คน ได้แก่ จ.ส.อ.ธนากร สูนานนท์, จ.ส.อ.สิทธิกร อาจคงหาญ และ จ.ส.ท.อดิศร ชะนู และส่วนสนับสนุน (ปภ.) 1 คน ได้แก่ ส.อ.ปธานิน โชติวงษ์