เมื่อวันที่ 29 ก.พ. นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 135 กิโลเมตร (กม.) ณ สถานีรถไฟมวกเหล็กใหม่สูงเนิน และโคกกรวด โดยปัจจุบันภาพรวมการก่อสร้างช่วงมาบกะเบา–คลองขนานจิตร คืบหน้า 95.76% ช้ากว่าแผนงาน 4.23% เนื่องจากอยู่ระหว่างการเวนคืนพื้นที่จากประชาชน พร้อมกันนี้ยังได้ตรวจเยี่ยมสถานีรถไฟมวกเหล็กใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารและส่วนประกอบ เพื่อรองรับโครงการรถไฟทางคู่ในเส้นทางดังกล่าว ได้ให้ รฟท. เร่งรัดดำเนินการในด้านต่างๆ ให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนด
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ช่วงบันไดม้า ถึงคลองขนานจิตร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ระยะทาง 29.70 กม. ก่อสร้างเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการออกหนังสือรับรองการแล้วเสร็จของงาน จึงมอบหมายให้ รฟท. เร่งดำเนินการให้สามารถเปิดให้บริการทางคู่ช่วงดังกล่าวได้ภายในปลายปี 67 เพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ในโอกาสนี้ รฟท. ได้รายงานถึงการออกแบบหลังคาคลุมชานชาลารถไฟทางคู่ที่มีลักษณะสั้น โดยชี้แจงว่า ตามรูปแบบโครงสร้าง จำเป็นต้องมีความสูง และมีระยะห่างจากรางรถไฟเพียงพอ เพื่อที่จะให้พ้นจากเขตโครงสร้าง ซึ่งจะทำให้เกิดความปลอดภัยในการเดินรถ อีกทั้งหัวรถจักรที่ใช้งานเป็นระบบรถดีเซลไฟฟ้า มีการปล่อยควัน ดังนั้นการออกแบบหลังคาต้องคำนึงถึงเรื่องการระบายอากาศจากควันรถเป็นสำคัญ เพราะหากหลังคาคลุมชานชาลารถไฟมีลักษณะยาว อาจเป็นอุปสรรคของการทำงานกรณีหากเกิดเหตุบริเวณสถานี
อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ จึงมอบนโยบายให้ รฟท. ดำเนินการติดตั้งแผงกันแดด และฝนเพิ่มเติมในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในเส้นทางต่างๆ ให้แก่ผู้ใช้บริการ นอกจากนี้ผู้โดยสารสามารถรอขึ้นขบวนรถบริเวณชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสาร หรือภายในอาคารสถานี ซึ่งได้จัดที่นั่งไว้ให้บริการ และเมื่อขบวนรถใกล้ถึงสถานี ผู้โดยสารสามารถใช้ลิฟต์ หรือบันไดมายังชานชาลา เพื่อขึ้นขบวนรถได้อีกด้วย
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันได้มอบให้ รฟท. เร่งแก้ไขปัญหาชุมชนโดยรอบทางรถไฟ ในพื้นที่สัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 3 ซึ่งมีทั้งหมด 110 แปลง โดยให้ใช้วิธีเจรจาปรองดองเกี่ยวกับพื้นที่ เพื่อใช้ก่อสร้าง และจ่ายเงินค่าทดแทนสำหรับผู้ถูกเวนคืนอย่างเหมาะสม เป็นธรรม ซึ่งความคืบหน้าขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าจะได้รับอนุมัติดำเนินการในเดือน มี.ค.67 และสามารถจ่ายเงินค่าเวนคืนได้ในเดือน พ.ค.–ต.ค.67 ส่วนสัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร–ชุมทางถนนจิระ จะมีการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนใหม่ ตามพระราชบัญญัติ 2562 โดย รฟท. ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในเขตพื้นที่โครงการ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ. 2548 แล้ว ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้ลงพื้นที่บริเวณจุดตัดทางรถไฟแยกสีมาธานี ซึ่ง รฟท. ได้เสนอแนวทางให้สร้างสะพานรถไฟในเขตทางเดิมระดับพื้นดิน โดยไม่ทุบสะพานสีมาธานี เนื่องจากเป็นแนวทางที่สามารถดำเนินการได้รวดเร็ว และประหยัดงบประมาณแผ่นดิน ที่สำคัญส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมจะมีการพิจารณาเงื่อนไขในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และประเทศชาติเป็นสำคัญ ทั้งนี้มั่นใจว่าโครงการพัฒนารถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา–ชุมทางถนนจิระ จะมีความพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 68.