“อนาโตลี มาลีคิน” แชมป์โลก ONE MMA รุ่นไลต์เฮฟวีเวต (205-225 ป.) และ รุ่นเฮฟวีเวต (225-265 ป.) วัย 35 ปี จากรัสเซีย ตัดสินใจลดรุ่นลงมาท้าชิงเข็มขัดจากคู่ปรับหน้าคุ้น “ไรเนียร์ เดอ ริดเดอร์” แชมป์โลก ONE MMA รุ่นมิดเดิลเวต (185-205 ป.) วัย 33 ปี จากเนเธอร์แลนด์ ลุ้นได้ชื่อเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ครองบัลลังก์ 3 รุ่นได้สำเร็จ ในศึก ONE 166 ที่จะจัดขึ้น ณ ลูเซล สปอร์ตส์ อารีนา ประเทศกาตาร์ ในวันศุกร์ที่ 1 มี.ค.นี้
สำหรับ “อนาโตลี” เปิดตัวครั้งแรกใน ONE เมื่อปี 2564 พร้อมสร้างผลงานดุเดือดปิดเกมเร็วคู่ชกได้รวดในสองไฟต์แรก ก่อนได้ตั๋วขึ้นชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE MMA รุ่นเฮฟวีเวต เฉพาะกาล ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้เอฟซีจากแดนหมีขาวผิดหวัง ปล่อยหมัดทีเด็ดน็อกยกสอง “คีริลล์ กรีเชนโก” คู่ชกจากเบลารุส ครองแชมป์ได้สำเร็จ ในศึก ONE: BAD BLOOD เมื่อเดือน ก.พ.65
จากนั้น “อนาโตลี” เริ่มมั่นใจกระโดดข้ามไปแย่งชิงเข็มขัดรุ่นไลต์เฮฟวีเวต จากราชานักล็อก “ไรเนียร์” ติดมืออีกเส้นได้สำเร็จ ในศึก ONE Fight Night 5 เมื่อเดือน ธ.ค.65 ขณะที่ล่าสุดเดินหน้าทำภารกิจรวบตึงเข็มขัดจาก “อาจาน บูลลาร์” เจ้าของแชมป์โลก ONE รุ่นเฮฟวีเวต จากอินเดีย ได้สมใจ ด้วยการถลุงทีเคโอร่วงยก 3 ในศึกใหญ่ ONE ลุมพินี 22 เมื่อ 23 มิ.ย.66
ทำให้ตอนนี้ “อนาโตลี” กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจสุดขีด คว้าชัย 5 ไฟต์รวดแบบไม่ครบยกทั้งหมด พร้อมเดินหน้าลุยเปิดศึกภาค 2 ฝากรอยแค้นอีกครั้งให้กับ “ไรเนียร์” ลุ้นจารึกชื่อในฐานะราชัน 3 รุ่นน้ำหนักคนแรกในประวัติศาสตร์ ONE ให้ได้
“ผมเห็นด้วยกับความท้าทายยึดครองเพิ่มอีกบัลลังก์ เพราะก่อนหน้านี้มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีนักสู้คนไหนทำได้มาก่อน ไฟต์นี้ ไรเนียร์ จะไม่มีข้อได้เปรียบอะไรทั้งนั้น ผมจะเป็นฝ่ายเข้าไปกดดันเขา ชกใส่เขาเยอะ ๆ แล้วผลทุกอย่างก็จะออกมาเหมือนเดิม มันจะเป็นงานที่หนักมากสำหรับเขาแน่นอนครับ”
อย่างไรก็ตาม “อนาโตลี” ยังไม่พร้อมที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นนักสู้รุ่นมิดเดิลเวตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเวลานี้ แต่พร้อมเผชิญหน้ากับบททดสอบใหม่ ๆ อยู่เสมอ และหากผลงานในไฟต์นี้ผ่านไปด้วยดี ตนก็วางแผนที่จะป้องกันเข็มขัดแชมป์ทั้ง 3 เส้นในอนาคตต่อไป
“ในรุ่นเฮฟวีเวต ผมแสดงฝีมือให้เห็นแล้วว่าตัวเองแทบไม่มีจุดอ่อน และเก่งที่สุดในรุ่นนี้ และแน่นอนผมก็เป็นนักสู้ที่เก่งที่สุดในรุ่นไลต์เฮฟวีเวตเช่นเดียวกัน แต่ตอนนี้ผมยังไม่สามารถพูดแบบนั้นในรุ่นมิดเดิลเวตได้ เพราะนี่เพิ่งเป็นครั้งแรกของผมในรุ่นนี้ และมันคงจะดูอวดเก่งไปหน่อยที่จะบอกว่าตัวเองเก่งที่สุด โดยที่ยังไม่ได้ลงแข่งแม้แต่ครั้งเดียวครับ”
“อย่างแรกเลย แผนในตอนนี้ของผมคือดูว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรเมื่อลงแข่งขันในรุ่น 185-205 ปอนด์ ถ้ามันผ่านไปได้ด้วยดีและผมยังโอเคอยู่ ผมก็พร้อมจะป้องกันเข็มขัดทุกเส้นที่มี ยิ่งลงแข่งขันมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเป็นเรื่องดีสำหรับผม ง่าย ๆ แค่นั้นเลย ผมเป็นคนรักในการต่อสู้ครับ”
แฟนกีฬาที่สนใจสามารถซื้อบัตรเข้าชมล่วงหน้าทาง Virgin Megastore หรือ Q-Tickets คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมการถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น. รวมทั้งติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ ONEFC.com และอินสตาแกรม ONEChampTh