เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 ก.พ. ที่ชั้น 2 หอประชุมมหาวิทยาลัยนครพนม ตำบลขามเฒ่า อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประชุมหารือแผนพัฒนาและแก้ไขปัญหาของจังหวัดนครพนม พร้อมกล่าวในที่ประชุมว่า เรื่องของโรงพยาบาลนครพนม ทางกระทรวงสาธารณสุข จะมีคอมเมนต์อะไรหรือไม่ อยากรู้ว่า คุยกันไปถึงไหนแล้ว งบประมาณปีไหนอย่างไร อยากทราบรายละเอียด ตนเข้าใจถึงความจำเป็นและเห็นใจ รัฐบาลนี้ให้ความสนใจ แต่อยากให้ดูและเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่นด้วย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้มีข้อเสนอที่ชัดเจน แต่วันนี้ถือเป็นการจุดประกายความคิด และอยากให้เสนอทุกอย่างมาเป็นเรื่องเดียวกัน ลำดับความสำคัญ อะไรจะทำอย่างไรเมื่อไหร่ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับจังหวัดนครพนม เรื่องรายได้แบ่งเป็น 2 ส่วน 70% เป็นการท่องเที่ยว ค้าขาย และขนส่งสินค้า ถือเป็นตัวเลขที่เกิดจากความเป็นจริง ซึ่งต้องให้ความสำคัญตามสัดส่วน ส่วนที่บอกมาในเรื่องของชลประทาน ตนเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร น่าจะจัดการให้ได้โดยมีการพูดคุยกันอยู่แล้ว ไม่ท่วมไม่แล้ง เป็นเรื่องสำคัญที่สุดของรัฐบาลนี้ ขอให้สบายใจว่าจะดูแลอย่างเต็มที่ เรื่องของถนน รมช.คมนาคม คงไม่ลำเอียง คงจะบริหารจัดการได้ตรงนี้ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเรื่องของการขนส่ง การขนถ่ายสินค้า รวมถึงเรื่องการยกระดับสนามบิน เป็นเรื่องที่น่าจะทำกันได้ รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญและผลักดันต่อไปแน่นอน และน่ายินดีกับจังหวัดนครพนม บริษัทใหญ่ๆ เจ้าของห้างทั่วโลกสนใจลงทุนที่นี่ ควรจะสนใจสินค้าด้วย ให้ได้รับการโปรโมต ซึ่งไม่ใช่ซื้อสินค้าอย่างเดียว การพัฒนาสินค้าก็สำคัญ การที่มีสินค้าหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหม หรืออะไรต่างๆ มีพื้นฐานความแข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่ยังขาดการดีไซน์ระดับโลก ต้องพยายามตอบโจทย์ให้ได้ตรงนี้ เชื่อว่าภาคเอกชนสามารถนำองค์ความรู้เข้ามาช่วยทำให้มีการดีไซน์ผลิตที่ได้มาตรฐานโลก และสามารถส่งไปขายตามสถานที่ต่างๆ ได้ ห้างในต่างประเทศหากมีสินค้าจากจังหวัดนครพนมไปขาย ก็จะเป็นแรงบันดาลใจให้ภาคเอกชนพัฒนาสินค้าไปขายในต่างประเทศ ได้มีตัวตนในเวทีโลก ได้พัฒนาจังหวัดให้เป็นเมืองหลัก

จากนั้น นายกฯ เยี่ยมชมนิทรรศการของดีประจำ 12 อำเภอ ภายใต้ 3MUST (Eat, Travel, Visit) และจับคู่ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและกลุ่มผลิตสินค้าชุมชน ที่บริเวณชั้น 1 หอประชุมมหาวิทยาลัยนครพนม.