สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ว่า องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (จาซา) ออกแถลงการณ์ การส่งจรวด “เอช3” จากฐานยิงภายในศูนย์อวกาศ ทาเนงะชิมะ นอกชายฝั่งเกาะคิวชู ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมื่อเวลา 09.22 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันเสาร์ (07.37 น. ตามเวลาในประเทศไทย) นำส่งดาวเทียมสองดวง เพื่อสำรวจสภาพอากาศ และภูมิศาสตร์โลก
ความพยายามดังกล่าว ถือเป็นความสำเร็จครั้งแรก ในการใช้งานจรวดเอช3 หลังพยายามมาแล้วสองครั้ง โดยความพยายามครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.พ. 2565 แต่ต้องยกเลิกในนาทีสุดท้าย เนื่องจากตรวจพบความขัดข้องทางเทคนิค ส่วนความพยายามครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ศูนย์ปฏิบัติการภาคพื้นดินป้อนคำสั่งให้จรวดทำลายตัวเอง
日本の新たな主力ロケット「H3」の2号機が17日午前9時22分すぎ、鹿児島県の種子島宇宙センターから打ち上げられましたhttps://t.co/e9sOysuKD0#nhk_video pic.twitter.com/80KZStQiCm
— NHKニュース (@nhk_news) February 17, 2024
ทั้งนี้ เอช3 ถือเป็นจรวดขนาดกลางรุ่นแรกที่ญี่ปุ่นพัฒนาเองในทุกขั้นตอน โดยบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ (เอ็มเอชไอ) สำหรับใช้แทนจรวด “เอช-ทูเอ” ที่เปิดตัวเมื่อปี 2544 เพื่อลดการพึ่งพิงเทคโนโลยีอวกาศของตะวันตก โดยมีเป้าหมายหลัก คือการส่งดาวเทียมโคจรรอบโลก และการส่งเสบียงขึ้นสู่สถานีอวกาศนานาชาติ (ไอเอสเอส) ที่ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศร่วมโครงการ
อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายมองว่า จรวดเอช3 น่าจะเป็นทางเลือกน่าสนใจ ในด้านการขนส่งและการเดินทางสู่อวกาศในอนาคต เนื่องจากมีการลงทุนน้อยกว่าจรวด “ฟัลคอน 9” ของบริษัทสเปซเอ็กซ์จากสหรัฐ ที่ตอนนี้เป็นคู่สัญญาหลักขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ (นาซา).
เครดิตภาพ : AFP