เมื่อวันที่ 16 ก.พ. นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า คดีการเมืองคือคดีที่มีวัตถุประสงค์หรือมีเป้าหมายทางการเมือง ซึ่งรวมถึงคดีที่รัฐใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ดำเนินคดีกับฝ่ายตรงข้ามเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองด้วย สำหรับคดีของอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ถือเป็นคดีการเมืองอย่างแท้จริง เพราะเป็นคดีที่ถูกรัฐใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือดำเนินคดีตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มจากคณะผู้ยึดอำนาจซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้าม แต่งตั้งคณะบุคคลฝ่ายตรงข้ามเรียกชื่อย่อว่า คตส. ทำหน้าที่แทน ป.ป.ช. ดำเนินคดีกับบุคคลในรัฐบาลของอดีตนายกฯ ที่ถูกยึดอำนาจ ทั้งที่มี ป.ป.ช. ซึ่งมีหน้าที่และอำนาจอยู่แล้ว แบบนี้ไม่เรียกว่าการเมืองจะเรียกว่าอะไร
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/02/ทักษิณ-ชินวัตร-15-2.jpg)
ในระหว่างการดำเนินคดีที่ดินรัชดาซึ่งเป็นคดีแรก อดีตนายกฯ ได้หลบหนีไปต่างประเทศ จากนั้นถูกศาลพิพากษาจำคุกสองปี ซึ่งหากไม่ได้ตัวมาลงโทษภายใน 10 ปี หรือภายในปี พ.ศ. 2561 จะขาดอายุความการลงโทษตามมาตรา 98 (3) ส่วนคดีอื่นที่เหลือจะต้องได้ตัวมาฟ้องภายในไม่เกิน 15 ปี หรือภายในปี 2564 ตามมาตรา 95 (2) แห่งประมวลกฎหมายอาญา ไม่เช่นนั้นจะขาดอายุความเพราะคดีอาญาจะพิจารณาและสืบพยานลับหลังจำเลยมิได้ อันจะทำให้อดีตนายกฯ สามารถเดินทางกลับไทยได้อย่างช้าที่สุดไม่เกินปี พ.ศ. 2564 โดยไม่อาจฟ้องและลงโทษท่านได้อีกเพราะคดีขาดอายุความทั้งหมดแล้ว
ดังนั้น เพื่อไม่ให้อดีตนายกฯ ซึ่งขณะนั้นฝ่ายที่มีอำนาจรัฐยังเห็นเป็นศัตรูหรือฝ่ายตรงข้ามได้กลับประเทศ สนช. ที่ถูกแต่งตั้งโดย คสช. จึงได้ผ่านร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 โดยมาตรา 28 ให้พิจารณาและสืบพยานคดีอาญาลับหลังจำเลยได้
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/02/ทักษิณ-ชินวัตร-30-2.jpeg)
ผลของการแก้ไขหลักเกณฑ์สากลที่ทั่วโลกยึดถือ ส่วนของประเทศไทยก็ได้ใช้มาตั้งแต่มีประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เมื่อปี พ.ศ. 2477 จึงทำให้คดีความของอดีตนายกถูกพิจารณาลับหลังและบางคดีถูกศาลพิพากษาลงโทษ ทำให้อายุความการลงโทษขยายเพิ่มต่อไปอีกสิบปี ซึ่งขัดต่อหลักนิติธรรมและหลักความยุติธรรมทางอาญา แบบนี้ถ้าไม่เรียกว่าเป็นคดีการเมืองจะให้เรียกว่าอะไร
ในฐานะนักกฎหมายคนหนึ่ง ผมเห็นใจที่อดีตนายกฯ ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณาคดี เพราะการดำเนินคดีกับท่านเริ่มต้นและจบลงด้วยวิธีทางการเมืองโดยใช้อำนาจของคณะรัฐประหารทั้งสิ้น แต่เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองเปลี่ยนไปทำให้ท่านได้กลับบ้าน ทำให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษ สถานการณ์ทางการเมืองและความขัดแย้งจึงคลี่คลายและลดลง และท่านได้รับพักการลงโทษตามสิทธิที่มีกฎหมายรับรองโดยชอบและได้กลับไปอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/02/427894342_698426549145992_440781225492986031_n.jpg)
ผมขอแสดงความยินดีด้วย หากหายเหนื่อยแล้วอย่าลืมใช้ความรู้ความสามารถกลับมาช่วยบ้านเมืองอีกนะครับ