เมื่อวันที่ 4 ก.พ. หลังจากตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3, ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และพ.ต.อ.ยรรยง ทองใบใหญ่ ผกก.สภ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ พร้อมกำลังเข้าจับกุม นายธีรพงศ์ หรือ ต้น อายุ 20 ปี หัวหน้าแก๊ง นำเยาวชนชายอายุ 13-15 ปี จำนวน 4 คน พยายามลักทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแต่ไม่สำเร็จ จนนำมาสู่การตรวจค้นพบอีกว่า นายธีรพงศ์ ได้ไปขโมยรถจักรยานยนต์ของนักเรียนอีก 3 คัน และพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของนายธีรพงศ์ ไปตรงกับอาวุธที่คนร้ายใช้ยิง พ่อเฒ่า อายุ 71 ปี ที่มาเลี้ยงควาย ที่บ้านโชค ต.สูงเนิน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เมื่อเดือนมี.ค.66 แต่ยังจับกุมคนร้ายไม่ได้ นอกจากนี้ยังพบว่ารถจักรยานยนต์ที่อยู่กับกลุ่มคนร้าย หมายเลขเครื่องตรงกับรถจักรยานยนต์ของตาวัย 71 ปี ที่ถูกฆ่าชิงรถไป

ตำรวจได้สอบสวนเพิ่มเติม นายธีรพงศ์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุยองตาเฒ่าวัย 71 ปีจริง เพื่อชิงรถจักรยานยนต์ ตำรวจจึงได้พาตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยนายธีรพงศ์ อ้างว่าได้ลงมือคนเดียว เพราะผ่านไปเห็นรถจักรยานยนต์ของตาเฒ่าสภาพใหม่ จึงทำทีขอขึ้นรถซ้อนท้ายไปด้วย พอสบโอกาสจึงใช้อาวุธปืนกระบอกที่ตำรวจค้นพบยิงด้านหลัง ซึ่งจริงๆ ตั้งใจจะยิงที่ขา แต่วิถีกระสุนพลาดไปโดนลำตัว หลังจากได้รถจักรยานยนต์แล้วก็ขับขี่หลบหนีเอารถไปใช้

จับ 4 เด็กแสบลักหม้อแปลงไฟขาย หัวหน้าแก๊งวัย 20 สอนวิชาโจร มีคดีฆ่าติดตัว!

“หลังทราบว่าตาเสียชีวิต รู้สึกสำนึกผิด ตั้งใจจะบวชอุทิศส่วนกุศลให้ตา 1 เดือน แต่บวชพระได้แค่ 5 วัน รู้สึกผ้าเหลือร้อนจึงสึกออกมา จึงอยากจะขอโทษครอบครัวของตา ตนเองไม่มีเจตนา แค่จะยิงขาตาเฉยๆ เพื่อเอารถตาไปเท่านั้น” นายธีรพงศ์ กล่าว

ภายหลังการสอบสวน พ.ต.อ.ธีรพล ยมนา ผกก.สภ.กระสัง ได้ขออายัดตัวนายธีรพงศ์ ต่อจากสภ.พลับพลาชัย เบื้องต้นตั้งข้อหาในส่วนของสภ.กระสัง “ฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ชิงทรัพย์ และพรบ.อาวุธปืน” ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย