สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ว่า นายโคทาโระ นางาซากิ ผู้ว่าราชการจังหวัดยามานาชิ ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิอันเลื่องชื่อ กล่าวว่า การเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว มีผลกับเส้นทางที่ถูกใช้มากที่สุดของภูเขา เพื่อลดความแออัด และเป็นเงินทุนสำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัย

ขณะที่แหล่งข่าวของเทศบาลจังหวัดยามานาชิ ระบุเสริมว่า รายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมข้างต้น จะถูกนำมาใช้เพื่อดำเนินมาตรการป้องกัน “การปีนเขาข้ามคืน” และสร้างที่หลบภัย ในกรณีที่ภูเขาไฟฟูจิเกิดการปะทุ

อนึ่ง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมล่าสุดนี้ จะเป็นค่าธรรมเนียมแยกต่างหาก จากเดิมที่นักปีนเขาทุกคน ถูกขอให้จ่ายเงิน 1,000 เยน (ราว 239 บาท) ตามความสมัครใจ เพื่อเป็นค่าช่วยเหลือการบำรุงรักษาภูเขาไฟฟูจิ

อีกด้านหนึ่ง จังหวัดชิซุโอกะ ซึ่งมีเส้นทางปีนภูเขาไฟฟูจิ 3 เส้นทาง ระบุว่า ทางจังหวัดยังไม่มีแผนที่จะเก็บค่าธรรมเนียมอื่น นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บในปัจจุบัน ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อการอนุรักษ์ภูเขาไฟ

ทั้งนี้ ภูเขาไฟฟูจิ มักจะเปิดบริการให้กับนักปีนเขา ตั้งแต่เดือน ก.ค. ถึงเดือน ก.ย. ซึ่งมีผู้มาเยือนหลายแสนคน พยายามปีนเขาโดยไม่นอนค้างคืน เพื่อชมพระอาทิตย์ในตอนเช้า

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นแนวทางปฏิบัติที่ไม่ปลอดภัย เนื่องจากมีกรณีที่ผู้ปีนเขาในช่วงกลางคืนบางคน ประสบภาวะตัวเย็นเกิน จนถูกนำตัวกลับไปที่สถานีปฐมพยาบาล.

เครดิตภาพ : AFP