เมื่อเวลา 17.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 1 ก.พ. 67 ที่สนามมวยเวทีลุมพินี มีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ Amazing MuayThai World Festival 2024 โดยมี มร.มัวริซิโอ สุไลมาน ประธานสภามวยโลก (WBC) , ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านนโยบายกีฬาและประธานคณะอนุกรรมการ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา , นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) , พันเอก ธนพล ภักดีภูมิ ประธานสภามวยโลกมวยไทย และ นายจิติณัฐ อัษฎามงคล” ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย ร่วมกันเปิดงาน โดยมีนักกีฬาและครอบครัวตบเท้าให้ความสนใจเกือบ 1,000 คน
งาน Amazing MuayThai World Festival 2024 สำหรับปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 5 ก.พ. 67 ที่สนามมวยเวทีลุมพินี เป็นการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นประเภทเยาวชนอายุตั้งแต่ 11-18 ปี และประเภททั่วไป โดยเริ่มแข่งขันตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. ของทุกวัน ซึ่งวันที่ 2-3 ก.พ.จะเป็นการแข่งขันรอบแรก และวันที่ 4-5 ก.พ.จะเป็นรอบชิงชนะเลิศและพิธีมอบรางวัล ทั้งนี้ทุกวันจะมีการตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนักนักกีฬาโดยทีมแพทย์ทหารจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า พร้อมควบคุมการแข่งขันโดยคณะกรรมการผู้ตัดสินชุดใหญ่จากสภามวยโลก มวยไทย (WBC MuayThai) โดยใช้กฎกติกาสากลที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
ขณะที่ช่วงเช้าของในวันนี้ ได้จัดสัมมนาและฝึกอบรมกรรมการผู้ตัดสิน เพื่อรองรับการแข่งชันนี้ โดยความร่วมมือกันระหว่างWBC MuayThai , สนามมวยเวทีลุมพินี และ ONE Championship ขณะที่พิธีเปิดงานดังกล่าว มีการแสดงวัฒนธรรมมวยไทยประกอบแสงสีเสียงภายในสนามมวยลุมพินี มีคณะทูตานุทูตต่างประเทศที่มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 50 ประเทศ ซุปเปอร์สตาร์มวยไทย นักกีฬา และทีมงานผู้ติดตาม รวมทั้งสิ้น ประมาณ 1,000 คน
มร.มัวริซิโอ กล่าวว่า “ผมในนามตัวแทนของ WBC MuayThai รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ ที่ได้มีโอกาสต้อนรับทุกท่านในสถานที่พิเศษที่เป็นตำนานของกีฬามวยไทยแห่งนี้ พิธีเปิดงานในวันนี้ถือเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ สาหรับงาน Amazing MuayThai World Festival 2024 ภายใต้นโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการส่งเสริมให้มวยไทยเป็นกีฬาประจำชาติและเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่สามารถต่อยอดและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศชาติ ประกอบกับนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา หรือ Sport Tourism กีฬามวยไทยจึงเป็น สิ่งที่ตอบโจทย์ในทุกด้าน ทั้งในด้านการเป็น Soft Power กีฬายอดนิยมระดับโลก และเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อมาท่องเที่ยว และมาเยื่อนถิ่นกำเนิดของกีฬามวยไทย
ความร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมกีฬามวยไทยของทั้ง 3 หน่วยงานหลัก ซึ่งได้แก่ WBC MuayThai การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกองทัพบก รวมทั้งการสนับสนุนจากคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา จึงทำให้เกิดงาน Amazing MuayThai World Festival 2024 นี้ขึ้นมา โดยจะมีกิจกรรมหลักที่สำคัญที่จะช่วยส่งเสริม และสนับสนุนกีฬามวยไทยให้ได้รับความนิยมเพิ่มมากยิ่งขึ้นในระดับโลก ได้แก่การแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นประเภทเยาวชนอายุตั้งแต่ 11-18 ปี และประเภททั่วไป โดยวันที่ 2-3 ก.พ. จะเป็นการแข่งขันรอบแรก ณ สนามมวยเวทีชั่วคราว และวันที่ 4-5 ก.พ. จะเป็นรอบชิงชนะเลิศและพิธีมอบรางวัลภายในสนามมวยเวทีลุมพินีแห่งนี้ ซึ่งจะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่สำหรับวงการมวยไทยในระดับโลก ผมเชื่อมั่นว่า การจัดงาน Amazing MuayThai World Festival 2024 นี้จะเป็นการจัดงานเชิงสัญลักษณ์ในการประกาศศักยภาพกีฬามวยไทย สู่การเป็นกีฬาประจำชาติและมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย และก้าวสู่การเป็นกีฬามาตรฐานของโลกที่ได้รับความนิยมสูงสุดต่อไปในอนาคต”
ผศ.พิมลฯ กล่าวว่า ” ปัจจุบันรัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของมวยไทยในฐานะซอฟต์พาวเวอร์ ของประเทศที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Quick Win 100 วันดันมวยไทยไปไกลระดับโลกของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์สาขากีฬา ซึ่งเป็นทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬามวยไทยทุกระดับและการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กีฬามวยไทยทั้งในและต่างประเทศในงานเดียว ซึ่งสิ่งที่เหล่านี้ คณะอนุกรรมการฯยินดีให้การสนับสนุนองค์กรต่างๆ เช่น WBC MuayThai, สนามมวยลุมพินี และสมาคมกีฬามวยไทยอื่นๆรวมถึงบูรณาการร่วมกับส่วนราชการที่ เพื่อผลักดันให้มวยไทยสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศได้ตามเป้าหมาย”
น.ส.ฐาปนีย์ฯ กล่าวว่า “ททท. ได้เห็นถึงความสำคัญของ “มวยไทย” มาโดยตลอด ครั้งนี้ทำแคมเปญ “Amazing MuayThai” โดยใช้ความเป็น Global Brand กีฬาระดับโลกของ WBC จึงช่วยทำให้เข้าถึงคนทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว และเข้าใจมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของชาวไทยได้อย่างถูกต้อง จึงเชื่อมั่นว่างาน Amazing Muaythai World Festival 2024 นี้จะเป็นจุดรวมพลังของทุกภาคส่วนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่สนใจและหลงใหลในกีฬามวยไทย อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านกีฬามวยไทยของโลกต่อไปอีกด้วย”
ด้าน พ.อ.ธนพลฯ กล่าวว่า “งานนี้ได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนต่อจากปีที่ผ่านมา โดยปีนี้มีคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬาของรัฐบาล เข้ามามีบทบาทอย่างมาก ยิ่งถือได้ว่าเป็นการบูรณาการระหว่างภาครัฐและเอกชนที่ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งได้รับความสนใจจากนักกีฬามวยไทยทั่วโลกลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างท้วมท้น และในฐานะเจ้าภาพจัดงาน พร้อมต้อนรับทุกท่านที่จะมาร่วมงาน ซึ่งภายในงานจะมีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจหลากหลายกิจกรรม เช่น คลินิกมวยไทย, การอบรมผู้ฝึกสอน และการจำหน่ายสินค้าจากโรงงานผู้ผลิต รวมทั้งนวดแผนไทย”
ด้าน นายจิติณัฐฯ กล่าวว่า “ONE Championship ในฐานะที่เป็นสื่อกีฬาการต่อสู้ระดับโลกและเป็น promoter รายการมวยไทยอย่าง ONE Lumpinee ที่เป็นรายการมวยไทยที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนการสร้างระบบนิเวศน์มวยไทยให้ไปสู่สากล, อีกทั้งยังช่วยเผยแพร่มวยไทยและ Soft Power ไทยไปสู่ผู้ชมทั่วโลก เราจะร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักมวยเยาวชนทั่วโลกที่มาร่วมงาน โดยจัดกิจกรรม Meet & Greet กับนักมวยซุปเปอร์สตาร์ในวันที่ 1 ก.พ. หลังพิธีเปิด และจะเปิดโอกาสให้นักกีฬาและผู้มาร่วมงานทั้งหมดเข้ารับชมการแข่งขันมวยไทยรายการ One Lumpinee ในวันที่ 2 ก.พ. 2567 โดยได้จัดที่นั่งโชนพิเศษให้รับชมกันในบรรยากาศระดับ World Class ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่จะให้พวกเขาได้สัมผัสมวยไทยระดับโลกที่ยากจะลืมเลือน”