“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย อันดับ 113 ของโลก จะลงสนามพบ อุซเบกิสถาน อันดับ 68 ของโลก ในฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันที่ 30 ม.ค.67 เวลาท้องถิ่น 14.30 น. หรือตรงกับเวลาไทย 18.30 น. ที่ อัล ยานูบ สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดพีพีทีวี ช่อง 36 หรือ ทีสปอร์ตส์ 7 ทีมชนะจะไปพบ “เจ้าภาพ-แชมป์เก่า” กาตาร์ หรือ ปาเลสไตน์

ผลงานทีมชาติไทย ในรอบแรก ชนะคีร์กีซสถาน 2-0, เสมอ โอมาน กับ ซาอุดีอาระเบีย 0-0 เป็นรองแชมป์กลุ่ม F ไม่แพ้ใคร ไม่เสียประตู ส่วน อุซเบกิสถาน รองแชมป์กลุ่ม B ผลงานรอบแรก เสมอ ซีเรีย 0-0, ถล่ม อินเดีย 3-0 และ เสมอ ออสเตรเลีย 1-1 คู่นี้เพิ่งเจอกันในรอบคัดเลือก เอเชียนคัพ 2023 ซึ่งเตะตอนกลางปี 2022 ที่อุซเบฯ เจ้าถิ่นชนะ 2-0 จาก จาโลลิดดิน มาชาริปอฟ (10) กัปตันทีม กับ อซิซเบ็ค ตูกุนโบเยฟ (19) ที่อยู่ในทีมชุดนี้ด้วย

ในการแถลงข่าว มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า รอบแบ่งกลุ่มทำได้ตามเป้า อุซเบกิสถาน มีเกมรับที่ดี ใช้ผู้เล่นช่วยเกมรับเยอะ แนวรุกใช้บอลด้านข้างในการขึ้นเกม นัดนี้จะได้ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ๊กซ้ายกัปตันทีมกลับมา ซึ่ง อุ้ม เพิ่งเล่นนัดที่ 100 ในเกมเสมอ โอมาน ก่อนโดนแบน เป็นคนที่มีประสบการณ์ในระดับทีมชาติ มีส่วนช่วยดึงผู้เล่นในทีม ให้รวมใจเป็นทีมเดียวกัน ได้ไปในทิศทางที่ดี

“ที่เราไม่เสียประตู ต้องให้เครดิตนักเตะอย่างเอเลียส ดอเลาะ (ที่มาแถลงข่าวด้วยในวันนี้) ส่วนเกมรุก แม้ 2 เกมหลังจะยิงไม่ได้ ก็สร้างโอกาสได้เยอะ จากนี้ไปรอบน็อกเอาต์ มันไม่สามารถเสมอได้ ดังนั้นจึงต้องฝึกซ้อมเพื่อทำประตู เพื่อชนะให้ได้ เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่จะพาเข้ารอบต่อไป”

หลังจบคำถาม อิชิอิ ยังถามผู้สื่อข่าวคนหนึ่งที่ใส่เสื้อ คาชิมา แอนท์เลอร์ส ที่ตนเองเคยคุมทีม ว่าทำไมถึงใส่เสื้อตัวนี้ ที่ตนเคยคุม ซึ่งผู้สื่อข่าวบอกว่า เพื่อให้กำลังใจ อิชิอิ และทีมชาติไทย