“มาดามอ้อ” นฬาพร ไชยนิน รองประธานสโมสรฝ่ายหารายได้และสิทธิประโยชน์สโมสรโปลิศ เทโร เอฟซี ทีมในไทยลีก เปิดเผยเมื่อ 28 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า จากที่ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับ เพจ 3 เพจ ที่ลงโพสต์ภาพและข้อความที่ตั้งใจทำให้เสียชื่อเสียงแก่ตัวเอง สโมสร และดิสเครดิตอย่างต่อเนื่อง ชัดเจน ในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และ PDPA ที่สน.วังทองหลาง
ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และเรียกตัวบุคคลที่ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา
ซึ่งทางตำรวจได้แจ้งว่าได้ดำเนินการส่งหมายเรียกไปยังบุคคลต่างๆ เหล่านั้นแล้ว แต่ยังไม่มาพบ คาดว่าถ้าไม่มาพบพนักงานสอบสวน ทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการขอออกหมายจับเพื่อไปทำการจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยเพจที่แจ้งความไป คือ 1.ฟุตบอลทีมชาติไทย แฟนคลับ, 2.ถลุงบอลไทย, Talungbathai และ 3. Ekings news
ทั้งนี้ “มาดามอ้อ” เปิดเผยด้วยว่า “ร้อยเวรวังทองหลาง ได้ส่งหมายเรียกเจ้าของเพจดังกล่าว เพื่อเข้ามาที่ สน. ในวันที่ 25 ม.ค 2567 ที่ผ่านมา แต่ทางเพจไม่ได้เข้ามาที่ สน. ตามหมายเรียก ทางร้อยเวรจึงให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จะส่งหมายเรียกอีกรอบหนึ่ง ถ้ายังไม่มาพบพนักงานสอบสวน ทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการขอออกหมายจับเพื่อทำการจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ฝากถึงแอดมินตลอดจนเจ้าของเพจดังกล่าวให้รีบติดต่อทางร้อยเวร สน.วังทองหลาง จะดีกว่าเพราะว่าหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ถึงแม้เพจดังกล่าวจะลบไปแล้วก็ตาม อันที่จริงอ้อก็ไม่ได้รู้จักเพจดังกล่าวเป็นการส่วนตัวแต่ข่าวที่ลงไป มันทำให้อ้อเสียชื่อเสียง, จงใจเจตนาทำลายเครดิตและประจานให้อับอายโดยใช้ถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรงและใส่ร้าย ก็ต้องเข้าใจและเห็นใจผู้ถูกกระทำก็เป็นแค่ลูกผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่มีเจตนาที่ดีในการทำงานและช่วยเหลือสโมสรมาด้วยดีตลอด พอเกิดเรื่องผิดพลาดในการดิวของกลุ่มทุนกัมพูชา ที่ไม่มีใครคาดคิด ว่าจะเกิดข้อผิดพลาด ที่ยังไม่มีบทสรุปจนถึงวันนี้
อ้อเลยเป็นเป้าที่ถูกถล่มโจมตี มาจากกลุ่มคนที่ไม่หวังดีตั้งใจทำลายชื่อเสียงของคนกลุ่มนึง ทั้งๆ ที่ อ้อไม่ได้ไปฆ่าคนตายและไม่ได้ทุจริตหรือทำอะไรที่ไม่ดี วันนี้ก็แค่จะมาปกป้องศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงคนหนึ่งและไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีก การที่โจมตีคนอื่นโดยใช้คีย์บอร์ดเขียนลงภาพที่เป็นการละเมิดและกระทำผิดกฎหมายทั้ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, PDPA และหมิ่นประมาทโดยที่คุณได้รับข้อมูลจากทางด้านเดียว ซึ่งอ้อมองว่า มันไม่ยุติธรรมแ ขอฝากไว้เป็นบทเรียนให้กับวงการฟุตบอลไทยของเรากำลังจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นในปีนี้อย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้นทุกภาคส่วนมีความสำคัญ และเป็นองค์ประกอบ ในการที่เราจะพัฒนาและเติบโต ยกระดับอุตสาหกรรมฟุตบอลไทยไปควบคู่กันค่ะ”