โชจิ โมริโมโตะ เริ่มยึดอาชีพ “ให้เช่า” ตัวเองไปเป็นเพื่อนสำหรับลูกค้าที่ไม่อยากทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามลำพัง ตั้งแต่ปี 2561 และประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยได้รับการว่าจ้างมากกว่า 4,000 ครั้ง 

โมริโมโตะ เพิ่งจะหยุดเก็บเงินค่าตัวจากลูกค้าเมื่อเดือนก.ย. ปีที่แล้ว และออกหนังสือบันทึกประสบการณ์จากการทำงานของเขา ซึ่งมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วย ในชื่อว่า “Rental Person Who Does Nothing” (บุคคลให้เช่าที่ไม่ต้องทำอะไรเลย) และเพิ่งวางจำหน่ายเมื่อต้นเดือนม.ค. นี้

โชจิ โมริโมโตะ ชายผู้ให้บริการ “เช่าตัวเอง”

โมริโมโตะ เล่าถึงประสบการณ์ของเขาที่พบลูกค้าหลากหลายประเภท พบสถานการณ์ทั้งแบบธรรมดาสุด ๆ ไปจนถึงเหตุการณ์สุดเพี้ยน เช่น ลูกค้าสาวที่ต้องให้เขาไปนั่งดูเธอติดตามพฤติกรรมของสามีทางออนไลน์จากเว็บไซต์หาคู่ โดยที่เขาไม่ต้องทำอะไร นอกจากนั่งจิบชาและดูเธอแสดงปฏิกิริยาต่าง ๆ ระหว่างติดตามร่องรอยของสามี

หนุ่มใหญ่วัย 39 ปีผู้ยึดอาชีพแปลกประหลาดเขียนเล่าไว้ในหนังสือของเขาว่า เขาเคยรับจ้างเพื่อไปเป็นเพื่อนลูกค้าซึ่งกำลังเตรียมยื่นเอกสารฟ้องหย่า, รับจ้างเพื่อรอโบกมืออำลาลูกค้าจากชานชาลาสถานีรถไฟ และรับจ้างไปนั่งรอลูกค้าที่เส้นชัยของการแข่งขันวิ่งมาราธอน

โมริโมโตะ เปรียบเทียบการทำงานของเขาว่า “เหมือนการนั่งดูโทรทัศน์” และเขาเพลิดเพลินกับการทำเช่นนั้นมาก ทั้งที่อยู่ในฐานะของ “ผู้ให้บริการ”

กระนั้น ชายหนุ่มซึ่งมีภรรยาและลูกชาย 1 คนแล้ว ก็เล่าว่ายังมีบางงานที่เขาจะไม่รับอย่างเด็ดขาด เช่น การมีเซ็กซ์กับลูกค้า และการไปเป็นเพื่อนดูคอนเสิร์ตของศิลปินที่เขาไม่รู้จัก 

โมริโมโตะเชื่อว่าอาชีพนี้เหมาะมากสำหรับเขาซึ่งมีบุคลิกของอินโทรเวิร์ตหรือคนที่ชอบเก็บตัว ลูกค้าของเขาแค่อยากมีใครสักคนนั่งอยู่ด้วยตอนที่ทำกิจกรรม โดยไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมาย หรือพูดง่าย ๆ ว่า ไม่ต้องการให้เขาทำอะไรมากไปกว่านั่งเฉย ๆ ด้วยกัน

ในแง่มุมหนึ่ง เขามองว่ามันเป็นเรื่องตลกเหมือนกันที่คนต้องการใช้บริการของเขาเป็นจำนวนมาก เขาชี้ว่าบุคลิกที่ดูไม่โดดเด่นและมักจะถูกมองข้ามของเขากลับกลายเป็น “สินค้า” ที่คนต้องการ

อย่างไรก็ตาม อาชีพของเขาก็โดนคนวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อย มีคนเรียกเขาว่าเป็น “แมงดายุคใหม่” หรือ “ขอทานยุคใหม่” แต่ โมริโมโตะบอกว่าเขาไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรมากนักต่อคำด่าเหล่านั้น แถมคำขยายว่า “ยุคใหม่” ยังทำให้เขารู้สึกดีอีกต่างหาก

ในตอนแรก โมริโมโตะ คิดค่าบริการ “ให้เช่าตัวเอง” ครั้งละ 10,000 เยน (ราว 2,408 บาท) และต่อมาก็เพิ่มเป็น 30,000 เยน (ราว 7,225 บาท)

แต่เขาบอกว่า ตั้งแต่เดือนก.ย. ที่ผ่านมา เขาไม่ได้เรียกเก็บค่าบริการจากลูกค้าอีกต่อไป เพียงแต่ขอเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง, ค่าอาหาร-เครื่องดื่ม และอื่น ๆ ในระหว่างให้บริการตามจริง และเน้นว่าจะพูดคุยกับลูกค้าในเรื่องทั่ว ๆ ไปเท่านั้น

ชายหนุ่มโพสต์ข้อความบนเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) ของเขาว่า ตอนนี้เขาใช้จ่ายด้วยเงินเก็บของเขา สิ่งที่เขาทำอยู่ไม่ใช่การทำธุรกิจที่จริงจัง และถ้าจะให้ดีก็ควรจะมองว่าเขาทำงานนี้เพื่อความบันเทิงมากกว่า

ที่มา : businessinsider.com

เครดิตภาพ : X / @morimotoshoji