นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษก ขบ. เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีช่องทางให้บริการประชาชนสำหรับการชำระภาษีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ (จยย.) หลายช่องทาง โดยมีช่องทางการชำระภาษีออนไลน์ ซึ่งได้รับความนิยมจากประชาชนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่องทางที่มีความสะดวก และไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง อยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีได้

สำหรับยอดผู้ชำระภาษีรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ประจำปีงบประมาณ 67 ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.66-31 ธ.ค.66 ระยะเวลา 3 เดือน สามารถจัดเก็บภาษีรถในส่วนกลาง (พื้นที่ 1-5) จำนวนทั้งสิ้น 1,542,517 คัน รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 2,072,445,855.80 บาท โดยแบ่งออกเป็นผู้ใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์ แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax จำนวน 30,193 คัน เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th จำนวน 195,357 คัน ผ่านแอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet จำนวน 2,895 คัน และเคาน์เตอร์เซอร์วิส จำนวน 41,255 คัน

นายเสกสม กล่าวต่อว่า ส่วนการใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่งพื้นที่ 1-5 มีผู้ใช้บริการจำนวน 1,066,926 คัน การใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) จำนวน 182,973 คัน Shop Thru for Tax จำนวน 1,235 คัน ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1,396 คัน ชำระผ่านธนาคาร จำนวน 1 คัน ชำระผ่านศูนย์บริการร่วมคมนาคม 15,904 คัน ตู้ Kiosk จำนวน 4,382 คัน สำหรับผู้ที่ชำระภาษีรถประจำปีผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax เรียบร้อยแล้ว สามารถเลือกให้จัดส่งเครื่องหมายการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ซึ่งจะได้รับภายใน 5 วันทำการนับจากวันชำระเงิน หรือเลือกพิมพ์เครื่องหมายการเสียภาษีด้วยตนเองที่ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) ภายในสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 ก็ได้ และในระหว่างที่รอรับเอกสาร ระบบจะแสดงหลักฐานการชำระภาษีรถประจำปีชั่วคราว เพื่อให้เจ้าของรถสามารถใช้เป็นหลักฐานแสดงการชำระภาษีจนกว่าจะได้รับเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีจากกรมการขนส่งทางบก 

แนะนำผู้ที่ต้องการชำระภาษีรถประจำปีสามารถชำระล่วงหน้าได้ก่อนครบอายุภาษี  90 วัน ทั้งนี้รถยนต์อายุการใช้งานเกิน 7 ปี รถจักรยานยนต์อายุการใช้งานเกิน 5 ปี รวมถึงรถที่ค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี สามารถนำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สถานตรวจสภาพรถเอกชนก่อนชำระภาษีล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเกี่ยวกับการชำระภาษีรถยนต์ หรือ รถ จยย. สามารถโทรสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง