เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวว่า หลังรับร้องเรียนจากญาติผู้เสียหายและนายกัน จอมพลัง คดีฆาตกรรมป้าบัวผัน ที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตนเตรียมลงพื้นที่ไปสะสางคดี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศพดส.ตร. เพราะคดีดังกล่าวผู้ก่อเหตุเป็นเด็กและเยาวชน จึงเข้าหน้างานของตน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า อีกทั้งญาติมาร้องเรียน ประกอบกับประชาชนในพื้นที่ไม่ไว้วางใจการทำงานของตำรวจ โดยเฉพาะ ผกก.สภ.อรัญประเทศ วันนี้จึงเตรียมลงพื้นที่พร้อมสั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค และชุดสืบสวนจากส่วนกลางลงไปคลี่คลายคดี พร้อมกับนำตัวลุงเปี๊ยก ผู้ตกเป็นผู้ต้องหาในตอนแรกมาสอบปากคำ โดยยอมรับว่าคดีนี้เป็นคดีอุกอาจ ซึ่งในรูปคดีขณะนี้ตำรวจได้จับกุมผู้ก่อเหตุชัดเจนแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ที่มีความเคลือบแคลงสงสัยโดยมีการนำตัวลุงเปี๊ยก มาดำเนินคดีถึงขั้นมีการแจ้งข้อกล่าวหาและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนปล่อยตัว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการสอบสวน เชื่อว่าความจริงจะปรากฏอย่างชัดเจนภายในวันนี้ โดยเฉพาะประเด็นที่ลุงเปี๊ยกไปรับสารภาพและเล่าเหตุการณ์ได้เป็นฉาก ทั้งที่ไม่ได้ก่อเหตุ จะมีบุคคลใดให้คำแนะนำหรือไม่ โดยเฉพาะสังคมตั้งข้อสงสัยการทำงานของตำรวจ วันนี้จะต้องจบ

“ส่วนหลังจากลุงเปี๊ยกได้รับอิสรภาพจะต้องอยู่ในการดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพราะต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิ ตำรวจไม่มีสิทธิไปควบคุมตัวไว้ พร้อมกับยืนยันว่าตนได้ตำหนิ ผกก.สภ.อรัญประเทศ ในการปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว ที่ปล่อยให้กลุ่มผู้ต้องหาก่อเหตุทั้งที่มีชาวบ้านร้องเรียนหลายครั้ง พร้อมกับยืนยันว่าจะไม่ปกป้องหรือช่วยเหลือลูกน้องเด็ดขาด” รอง ผบ.ตร. กล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงแนวคิดการลดอายุอาชญากรรมเด็กจาก 15 ปี เป็น 12 ปี ของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ว่าตนเองเห็นด้วยแต่มาตรการดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายเป็นมาตรการระยะยาว ต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา แต่เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น ตำรวจต้องหามาตรการป้องกันภายในชุมชน เพื่อให้คนในพื้นที่อยู่อย่างสงบ

สำหรับประเด็นหลักฐานคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิด รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าตำรวจได้ก่อนสื่อมวลชนจริง แต่เกิดคำถามว่าหากตำรวจได้ก่อนทำไมถึงต้องมีการนำตัวลุงเปี๊ยก ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ย้ำว่าความจริงจะปรากฏในวันนี้ พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ลุงเปี๊ยกปลอดภัยดี แต่หากมีการสอบสวนพบว่าลุงเปี๊ยก ให้การเท็จก็จะต้องถูกดำเนินคดีฐานแจ้งความเท็จ แต่หากมีหลักฐานว่าตำรวจแนะนำให้รับสารภาพหรือข่มขู่บังคับเพื่อช่วยคนผิดก็จะต้องถูกดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาเด็ดขาด เพราะถือเป็นการบิดเบือนและทำลายกระบวนการยุติธรรม