กรณี น.ส.บัวผัน ตันสุ อายุ 47 ปี หรือป้ากบ หญิงสติไม่สมประกอบถูกกลุ่มวัยรุ่น 5 คน โดยในจำนวนนี้มีลูกของตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ทำร้ายร่างกายและฆ่า แล้วนำร่างไปทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียนใน จ.สระแก้ว แต่ต่อมาตำรวจกลับจับตัวนายปัญญา คงแสนคำ อายุ 54 ปี หรือลุงเปี๊ยก สามีผู้ตาย และส่งเข้าเรือนจำ ภายหลังเรื่องแดงจึงทำหนังสือขอปล่อยตัวออกมา

5 วัยรุ่นวัย 13 – 16 ปี สารภาพแล้ว ร่วมกันอุ้มฆ่าสาวใหญ่สติเพี้ยน อ้างเหตุเพราะแค้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 ม.ค. ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พานางปาง อายุ 55 ปี พี่สาวน.ส.บัวผัน ขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.หลังเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมทางคดี

กัน จอมพลัง กล่าวว่า ที่พามาร้องวันนี้ เนื่องจากสงสัยในคดี ว่าเพราะเหตุใดลุงเปี๊ยก สามีของน.ส.บัวผัน รับสารภาพในชั้นพนักงานสอบสวน ทั้งที่ความจริงลุงไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เลย จะไปทราบพฤติการณ์การก่อเหตุได้อย่างไร จึงตั้งข้อสังเกตว่ามีใครสั่งให้พูดข้อมูลดังกล่าวหรือไม่ อีกหนึ่งข้อสงสัยคือกรณีลุงเปี๊ยก หลังถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ มีรายงานว่าตำรวจคุมตัวเอาไปไว้ในเซฟเฮาส์แห่งหนึ่งใน จ.สระแก้ว โดยตำรวจอ้างว่าจะให้การดูแล

นางปาง กล่าวว่า ยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากกลุ่มคนผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมที่เหี้ยมโหด ประกอบกับไม่ไว้ใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะประเด็นข้อสงสัยว่ามีใครบังคับให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพเพื่อรับโทษทางคดี ทั้งที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด

นางปาง กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกกังวล เกรงจะไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะตำรวจไม่เคยเข้ามาดูแลแม้แต่ในงานศพญาติตนเอง และสงสัยว่าเหตุใดลุงเปี๊ยกไปรับสารภาพ มีใครไปบังคับสั่งการหรือไม่ เพราะตนไม่เชื่อว่าลุงเปี๊ยกจะไปก่อเหตุรุนแรงขนาดนี้ เพราะทั้งคู่ต่างสติไม่สมประกอบ และตั้งแต่ลุงเปี๊ยกได้รับการปล่อยตัวก็ไม่มีใครประสานให้ไปรอที่เรือนจำ ไม่ทราบว่าถูกปล่อยตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และใครเป็นคนที่อยู่กับเจ้าตัวในตอนนี้ด้วย ตนต้องการให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษถึงที่สุด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีนี้เกี่ยวกับเด็กและเยาวชนที่ตนกำกับดูแล ซึ่งกรณีนี้ญาติไม่มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยตนทราบว่าเด็กทั้ง 5 คนถูกจับกุมทั้งหมดแล้ว ซึ่งในจำนวนนั้นมีลูกของตำรวจด้วย แต่ประเด็นที่สังคมสงสัยคือเหตุใดลุงเปี๊ยกจึงยอมรับสารภาพในคดี ดังนั้นตนจะลงพื้นที่ไปติดตามคดีนี้ด้วยตนเอง และหากมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจริงก็ต้องดำเนินคดี ไม่ปกป้องคนที่ทำผิด เนื้อใดร้ายก็ต้องตัดทิ้ง ซึ่งตนยอมรับว่าพฤติการณ์การก่อเหตุของเด็กกลุ่มนี้เลวร้ายมาก ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด สำหรับการแก้ไขกฎหมายเพื่อลดอายุของเด็กให้รับโทษรุนแรงขึ้นนั้น เป็นเรื่องระยะยาวที่ยังคงหารือกันร่วมกับหลายหน่วยงาน แต่ในระยะสั้นคือการตรวจสอบคดีดังกล่าว และทำความจริงให้ปรากฏให้ได้

โดยช่วงบ่ายของวันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะเข้าพบกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และผู้บังคับการจังหวัดสระแก้ว พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว