การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย “เอเชียนคัพ 2023” กลุ่ม F นัดแรก วันที่ 16 ม.ค. 67 “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย อันดับ 113 ของโลก พบ “เหยี่ยวขาว” คีร์กีซสถาน อันดับ 98 ของโลก เตะเวลาไทย 21.30 น. ที่อับดุลลาห์ บิน คอลิฟา สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง PPTV HD ช่อง 36 และ T-Sports 7

ช้างศึก ของ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่น เพิ่งเก็บตัวซ้อมเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 67 เวลาซ้อมน้อยกว่าใคร ไม่มีตัวเก๋า “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา, “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ รวมทั้ง “บุ๊ค” เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ถอนตัว อุ่นเครื่องวันปีใหม่ บุกแพ้ ญี่ปุ่น 0-5

เกมนี้คาดว่า อิชิอิ จะจัดระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู ปฏิวัติ คำไหม, คู่เซ็นเตอร์ พรรษา เหมวิบูลย์, เอเลียส ดอเลาะ, แบ๊กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน, แบ๊กขวา นิโคลัส มิคเกลสัน, กองกลาง วีระเทพ ป้อมพันธุ์, พีระดนย์ ฉ่ำรัศมี, แนวรุกริมเส้นซ้าย บดินทร์ ผาลา, ขวา ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, ขณะที่ “เช็ค” สุภโชค สารชาติ เป็นหน้าต่ำ โดยกองหน้า “อาร์ม” ศุภชัย ใจเด็ด

ด้าน คีร์กีซสถาน ทีมอันดับ 16 แห่งเอเชีย ของกุนซือ สเตฟาน ทาร์โควิช โค้ชคนแรกที่ไม่ใช่ชาวคีร์กีซสถาน หรือ รัสเซีย เกมอุ่นเครื่องต้นปีนี้ ชนะ เวียดนาม 2-1, เสมอ ซีเรีย 1-1 ขณะเดียวกัน เมื่อปีที่แล้ว มีเกมที่เจอทีมอาเซียน 3 นัด ต้นปี 2023 เสมอ เมียนมา 1-1, เดือน ต.ค. แพ้ ฟิลิปปินส์ 0-1 ที่บาห์เรน และคัดบอลโลก 2026 บุกแพ้ “เสือเหลือง” มาเลเซีย 3-4 โดยเสียประตูแพ้ช่วงทดเวลา นักเตะที่น่าจับตา โจเอล โคโจ กองหน้าวัย 25 ปี ของดินาโม ซามาคานด์ ในลีกอุซเบกิสถาน กับ อลิมาร์ดอน ชูคูรอฟ กองกลางวัย 24 ปี จากเนมัน กรอดโน ในลีกเบลารุส ที่เคยเล่นยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ลีก มาแล้ว

โดยเกมนี้ถือว่าสำคัญสำหรับ 2 ทีมมาก ด้วยระบบที่อันดับ 3 มีโอกาสเข้ารอบ คัด 4 ทีม จาก 6 กลุ่ม หากชนะเกมนี้ ก็ยังมี 3 แต้มตุน ก่อนเจอทีมแข็ง โอมาน และที่แกร่งสุดคือ ซาอุดีอาระเบีย แต่หากแพ้ ก็แทบความหวังดับวูบ

อีกคู่ กลุ่มเดียวกัน คืนวันเดียวกัน เวลา 00.30 น. ซาอุดีอาระเบีย พบ โอมาน