เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. พร้อม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม รอง ผบ.ก.ป. พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการทลายเครือข่ายศิลปินดังแอบอ้างโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ลวงเหยื่อสูญเงินกว่า 2,000 ล้าน โดยจับกุม 10 ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอสารราชการปลอม, ทุจริตหรือหลอกลวง โดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ, ร่วมกันฟอกเงิน, สมคบฟอกเงิน” พร้อมยึดของกลาง รถหรู 1 คันรถยนต์ 6 คัน เงินสด 554,800 บาท กระเป๋าแบรนด์เนม 59 ใบ นาฬิกาแบรนด์เนม 6 เรือน เครื่องประดับ 41 รายการ แว่นตาแบรนด์เนม 38 รายการ หมวกแบรนด์เนม 20 ใบ กีตาร์ 3 ตัว อายัดเงินสดในบัญชีธนาคาร 174 ล้านบาท และอายัดอสังหาริมทรัพย์ อีกมูลค่า 60 ล้านบาท รวมทรัพย์สินทั้งหมด 279,178,683 บาท
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/01/1704963120150.jpg)
พล.ต.ต.โสภณ เปิดเผยว่า ช่วงปี 2559 น.ส.รัชญา หรือ ใบขวัญ ยอดแก้ว พร้อมกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 10 ได้ร่วมกันหลอกลวงเงินผู้คน โดยอ้างว่ารู้จักสถาบันการเงิน สามารถเข้าถึงโครงการเงินกู้วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำได้ อีกทั้งยังแอบอ้างชื่อองคมนตรี หน่วยงานราชการต่างๆ ทำให้ดูน่าเชื่อถือ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องยอมจ่ายค่าธรรมเนียม หรือค่าดำเนินการ จนมีผู้ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินค่าธรรมเนียมให้ น.ส.รัชญา และพวก กว่า 300 คน ตั้งแต่หลัก 10 ล้านไปจนถึงร้อยล้านบาท เพียงเพราะหวังต้องการจะได้เงินกู้เงินหลักพันล้านบาท มาประกอบธุรกิจ
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/01/1704960483095.jpg)
พล.ต.ต.โสภณ กล่าวต่อว่า ต่อมาต้นปี 2566 น.ส.รัชญา เสียชีวิตลงกะทันหันด้วยโรคประจำตัว กลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดจึงตรวจสอบว่าเงินที่ น.ส.รัชญา ได้ไปดำเนินการอย่างไรต่อ จึงทราบว่าไม่มีโครงการกู้ยืมเงินดังกล่าวเกิดขึ้นแต่อย่างใด ทั้งหมดเป็นการแอบอ้างกุเรื่องขึ้นมา อีกทั้งจากแนวทางสืบสวนยังพบว่า เดิมที น.ส.รัชญา ประกอบอาชีพขายของออนไลน์ แต่หลังจากได้เงินที่หลอกลวงผู้เสียหายมาได้ จึงนำมาลงทุนสร้างบริษัทค่ายเพลง ร่วมงานกับศิลปินที่มีชื่อเสียงในวงการ เพื่ออำพรางแหล่งที่มาเงินรายได้
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/01/1704963108971.jpg)
พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 2,000 ล้านบาท มีการโอนไปยังบัญชีธนาคารของเครือญาติ ซื้อทรัพย์สินต่าง ๆ รถหรู บ้าน ของแบรนด์เนม เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ พร้อมกระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 19 จุด ในพื้นที่ 7 จังหวัด ประกอบด้วย ปทุมธานี กรุงเทพฯ นครราชสีมา พิษณุโลก เชียงใหม่ กำแพงเพชร และสมุทรปราการ จนนำมาซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 10 ราย พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำผิดดังกล่าว จากการสอบสวนผู้ต้องหาส่วนใหญ่ยังคงให้การภาคเสธ ยอมรับเพียงว่าเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารจริง แต่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการหลอกเอาเงินผู้คน เบื้องต้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.