เมื่อวันที่ 6 ม.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก “เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง” หัวข้อ “อภิปรายนอกสภา” โดยระบุว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้ผ่านไปแบบไม่ต้องลุ้นคะแนนของฝ่ายรัฐบาล แต่ที่ต้องลุ้นคือคะแนนของฝ่ายค้านว่าจะมีความเป็นเอกภาพหรือไม่ โดยตนได้ติดตามการประชุมตลอด 3 วัน อย่างใจจดใจจ่อ เพื่อต้องการทราบว่ามีการอภิปรายที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะนักโทษเทวดา ซึ่งพักอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจอย่างไร หรือไม่ ซึ่งผลปรากฏว่าไม่มี สส. คนใดอภิปรายถึงนายทักษิณชัดๆ ลงลึกในข้อมูล ยกเว้นนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้อภิปรายถึงการจัดงบประมาณของกรมราชทัณฑ์ แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยชื่อนายทักษิณ ก็ถูกนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงทันที โดยอ้างว่านายทักษิณถูกกลั่นแกล้งมาเป็นเวลา 17 ปี แต่ไม่มีใครโต้แย้งคำประท้วงของนายครูมานิตย์ในประเด็นนี้

นายเทพไท ระบุอีกว่า ตนขอชี้แจงว่า นายทักษิณไม่ได้ถูกกลั่นแกล้ง แต่นายทักษิณกระทำความผิดในข้อหาทุจริตจริง เพราะนายทักษิณได้กราบบังคมทูลว่ายอมรับกระบวนการยุติธรรม และสำนึกในความผิดที่กระทำลงไป ตามรายละเอียดในพระบรมราชโองการพระราชทานอภัยลดโทษ ซึ่งต่อจากนี้ไป ลูกน้องของนายทักษิณ รวมถึงสาวกและลิ่วล้อของนายทักษิณ จะแก้ต่างว่านายทักษิณถูกกันแกล้งไม่ได้อีกแล้ว

นายเทพไท ยังระบุถึงการตอบคำถามของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ว่า สามารถสรุปได้ 6 ประเด็น ดังนี้ 1.เรือนจำ กรมราชทัณฑ์ ไม่ใช่สถานที่ฆ่าคน หากใครป่วยก็ออกไปรักษาตัวโรงพยาบาลนั้น ข้อเท็จจริง คือนักโทษทั่วไปที่มีอาการป่วยหนักกว่านายทักษิณมาก บางคนยังไม่ได้รับสิทธิให้ออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ 2.การยืนยันว่านายทักษิณป่วยจริง และการติดในห้องสี่เหลี่ยม ออกไปไหนไม่ได้ ถือว่าเสียอิสรภาพแล้วนั้น ข้อเท็จจริง ห้องสี่เหลี่ยมที่นายทักษิณพักอยู่ เป็นห้องผู้ป่วยพิเศษระดับสูง ห้องขนาดใหญ่ ติดแอร์ มีเตียงนอน มีสิ่งอำนวยความสะดวก ต่างกับนักโทษในเรือนจำที่นอนในห้องแคบๆ แออัด ใช้ผ้า 3 ผืน

3.คำยืนยันที่ว่านายทักษิณป่วยจริง และไม่เลือกปฏิบัติ เพราะนักโทษคนอื่นๆ ได้รับสิทธิรักษาพยาบาลเหมือนกัน แต่ข้อเท็จจริงคือไม่มีหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่านายทักษิณป่วยจริง และการอนุมัตินำตัวออกจากเรือนจำไปรักษาตัวที่ รพ. มีความแตกต่างจากนักโทษทั่วไป ซึ่งต้องรักษากับสถานพยาบาลในเรือนจำก่อน ก่อนจะนำตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลภายนอก 4.การปฏิเสธว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ต่อนายทักษิณ และไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือกฎหมาย แต่ข้อเท็จจริง คือนายทักษิณไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด การออกระเบียบให้มีการคุมขังนอกเรือนจำซึ่งล่าช้ามาเป็นเวลา 3 ปี และออกมาในช่วงที่นายทักษิณถูกจำคุกอยู่ ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณโดยตรงหรือไม่ และถ้าไม่มีนักโทษที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร ระเบียบนี้คงยังไม่รีบออกมาใช่หรือไม่

5.ที่บอกว่านายทักษิณเป็นนักสร้างสันติภาพ และกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะต้องการให้บ้านเมืองมีสันติภาพ มีสันติสุขนั้น ข้อเท็จจริงคือนายทักษิณเป็นนักสร้างความขัดแย้ง แบ่งแยกประชาชนมากกว่า 6.การป่วยของนายทักษิณเกิดก่อนรัฐบาลนี้จะเข้ามาบริหารประเทศนั้น ข้อเท็จจริงคือนายทักษิณกลับประเทศไทย เพราะคาดการณ์ไว้ว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล การเข้ามาช่วงรอยต่อระหว่างรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นเพียงเทคนิคทางการเมืองของนายทักษิณ

“การอภิปรายในสภา ยังไม่มี สส. คนใดหยิบยกประเด็นที่เกี่ยวกับคุณทักษิณมาอภิปรายชี้แจงในที่ประชุมสภาเลย ผมจึงขออนุญาตทำหน้าที่ สส. นอกสภา ชี้แจงประเด็นต่างๆ เพื่อต้องการทำความจริงให้ปรากฏเท่านั้น ไม่ต้องการโต้แย้งคำพูดของบุคคลใด ผมต้องขออภัยต่อ พ.ต.อ.ทวี เป็นอย่างยิ่ง ที่จำเป็นต้องชี้แจงคำอภิปรายของท่าน ด้วยความเคารพรักต่อ พ.ต.อ.ทวี เป็นการส่วนตัว เพราะท่านมีน้ำใจไมตรีกับผม เคยไปเยี่ยมที่เรือนจำ” นายเทพไท ระบุ