เมื่อวันที่ 4 ม.ค. นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ได้สั่งการให้ ทอท. ซึ่งบริหารท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งของประเทศไทย ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.), ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.), ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.), ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของนักเดินทางชาวจีน และชาวไทยที่จะเดินทางไปกลับระหว่างสองประเทศ ภายหลังจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมีนโยบายยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของไทย และผู้ถือหนังสือเดินทางกึ่งราชการ และหนังสือเดินทางธรรมดาของไทย (VISA FREE) ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.67

นายกีรติ กล่าวต่อว่า ได้ให้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงการบริหารจัดการการให้บริการในท่าอากาศยานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้เดินทางทุกคนได้สัมผัสกับการบริการที่สะดวก ปลอดภัย และรวดเร็ว อันจะนำมาซึ่งความประทับใจ และเกิดภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ อย่างไรก็ตาม ทอท. ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการการให้บริการผู้โดยสารในขั้นตอนต่างๆ ทั้งในส่วนของผู้โดยสารขาเข้าและขาออก ให้เกิดความคล่องตัว ไม่ให้เกิดภาพความหนาแน่นในแต่ละจุดบริการ โดยเฉพาะในขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง และบริเวณสายพานรับกระเป๋า รวมทั้งได้นำเทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมด้วย

นายกีรติ กล่าวอีกว่า คาดว่าในช่วงที่มีมาตรการ VISA FREE ในปี 67 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 8 ล้านคน ฟื้นตัว 75% เมื่อเทียบกับปี 62 ที่มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย 11.1 ล้านคน ทั้งนี้ ทอท. จะประสานความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดแคมเปญดึงดูดนักท่องเที่ยว และสายการบินเพื่อให้เกิดความต้องการในการเดินทางมายังประเทศไทย และปัจจุบันนี้ ทอท. ได้มีโครงการกระตุ้นตลาดด้านการบิน ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะดึงดูดให้สายการบินเพิ่มปริมาณเที่ยวบิน และผู้โดยสารระหว่างประเทศ 

นายกีรติ กล่าวด้วยว่า ทอท. จะสนับสนุนสายการบินที่ทำการบินในเที่ยวบินแบบประจำระหว่างประเทศ (International Scheduled Flight) รวมถึงเที่ยวบินพิเศษ (Extra Flight) และเที่ยวบินแบบไม่ประจำ หรือเช่าเหมาลำนอกเหนือจากจำนวนเที่ยวบินของสายการบินตนเองตามตารางการบินที่ได้รับการอนุมัติ ณ วันที่ 8 ก.ย.66 โดยสายการบินจะได้รับส่วนลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน 175 บาทต่อผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 1 คน ทั้งนี้ส่วนลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยานต้องไม่เกิน 75% ของค่าบริการขึ้นลงของอากาศยานของเที่ยวบินส่วนเพิ่ม โดยมีระยะเวลาของโครงการฯ ถึงวันที่ 31 มี.ค.67 รวมไปถึงโครงการสำหรับสายการบินที่เปิดให้บริการเส้นทางการบินใหม่ (New Routes Incentive) โดย AOT จะพิจารณาให้ส่วนลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน ค่าบริการที่เก็บอากาศยาน และค่าบริการใช้สะพานเทียบเครื่องบิน (Landing Charges, Parking Charges และ Boarding Bridge Charges) เพื่อดึงดูดให้สายการบินเปิดเส้นทางการบินใหม่มาที่ท่าอากาศยานหลัก และท่าอากาศยานในภูมิภาคของ ทอท. เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองด้วย.