เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการตามมาตรการอำนวยความสะดวกและปลอดภัย ช่วงเทศกาลปีใหม่ 67 โดยมีมาตรการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร/จุดจอด และจุด Checking Point รวม 222 จุด ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 66-4 ม.ค.67 เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 66 ตรวจรถโดยสารสาธารณะแล้ว 15,382 คัน พบข้อบกพร่อง จำนวน 1 คัน กรณีเครื่องปรับอากาศเสีย โดยดำเนินการ “เปลี่ยนรถทดแทน” แล้ว ส่วนการตรวจความพร้อมและตรวจสอบอุณหภูมิพนักงานขับรถ 15,382 ราย ไม่พบพนักงานขับรถบกพร่องและไม่พบพนักงานขับรถอุณหภูมิเกิน
ส่วนผลการดำเนินการติดตามตรวจสอบการเดินรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ด้วยระบบ GPS Tracking ผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS จำนวน 49,429 คัน พบการใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด 312 คัน ผลตรวจสอบการใช้ความเร็วรถโดยสารและรถบรรทุก ด้วยกล้องเลเซอร์ บนถนนสายหลักและสายรอง 2,341 คัน พบการใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด 33 คัน
นายจิรุตม์ กล่าวต่อว่า ขบ. จะประสานผู้ประกอบการขนส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อระงับการใช้ความเร็ว ควบคู่กับมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด สำหรับการร้องเรียนเกี่ยวกับรถโดยสารสาธารณะผ่านศูนย์ 1584 ได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว 62 เรื่อง โดยเรื่องที่มีการร้องเรียนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ขับรถประมาท/น่าหวาดเสียว, ไม่หยุดรับส่งผู้โดยสารที่ป้ายหยุดรถ และผู้ประจำรถแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ/แต่งกายไม่เรียบร้อยตามลำดับ โดยจะเร่งติดตามผู้กระทำผิดมาสอบสวนและดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ พบปัญหาจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ แจ้งสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม เทศกาลปีใหม่นี้ เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ให้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดทุกแห่ง ตรวจความพร้อมของรถและความพร้อมของผู้ขับรถก่อนออกเดินทาง ตามแบบ Checklist เช่น การมีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้อง ตรวจความพร้อมด้านร่างกาย และการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ชั่วโมงการขับรถไม่เกินที่กฎหมายกำหนด รถโดยสารสาธารณะทุกคันต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรง ทั้งสภาพตัวรถภายนอกและภายใน
รวมทั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยต่างๆ ต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและให้ความรู้แก่ผู้โดยสารกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และขอให้ผู้โดยสารทุกที่นั่ง คาดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทาง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ