เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. กล่าวถึงกรณี สว. จะหมดวาระการทำหน้าที่ในวันที่ 11 พ.ค. 2567 ว่า คงไม่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงอะไรเท่าไร คลื่นลูกเก่าไป คลื่นลูกใหม่ก็มาเท่านั้นเอง ไม่ต้องกังวลอะไรกับ สว. อีกต่อไป เพราะ สว. ชุดใหม่จะไม่มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีอีก แต่ระหว่างนี้อย่ารีบเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี เพราะจะทำให้ สว. ชุดปัจจุบันเลือกนายกรัฐมนตรีได้อีก ขณะนี้ในวง สส. และ สว. พูดกันหนาหู นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กับ สว. ชุดนี้ ใครจะไปก่อนกัน ทราบว่านายเศรษฐาก็มีปัญหาในเรื่องการบริหารอำนาจเช่นกัน ปัจจัยที่จะกำหนดความอยู่รอดของนายเศรษฐาจะอยู่ได้นานแค่ไหนคือ ชนวนคดีของนายทักษิณ ชินวัตร ว่า นายเศรษฐาจะบริหารอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน 

“ขณะนี้กระแสสังคมจุดติดแล้ว รับไม่ได้ที่นายทักษิณได้อภิสิทธิ์พิเศษ ไม่ต้องรับโทษตามกระบวนการยุติธรรมในคดีทุจริต ไม่เคยถูกคุมขังในเรือนจำแม้แต่วันเดียว จะเป็นตัวประเดิมจุดไฟขัดแย้งตั้งแต่ต้นปี ขึ้นอยู่กับบทบาทนายเศรษฐา จะประคับประคองอารมณ์ประชาชนได้แค่ไหน” นายกิตติศักดิ์ กล่าว

นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนอีกเรื่องที่จะกำหนดความอยู่รอดของรัฐบาลคือ การแก้ปัญหาปากท้องประชาชนจะเป็นตัวกำหนดเสถียรภาพรัฐบาลและเสถียรภาพนายกรัฐมนตรี เช่นกัน รวมถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ต้องจับตา รัฐบาลจะกล้าเสี่ยงออก พ.ร.บ.กู้เงิน นำเงินมาแจกประชาชนหรือไม่ ดูแนวโน้มแล้วพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่กล้าเสี่ยงออก พ.ร.บ.กู้เงินมาแจกประชาชน ถ้ากฎหมายไม่ผ่านในสภา นายกฯ ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก ประเมินสถานการณ์แล้วในไตรมาสแรกปี 2567 รัฐบาลจะเผชิญแรงปะทะหนักมาก ไหนจะเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือน มี.ค. 2567 อีก คงถูกพรรคก้าวไกลถล่มหนักแน่ ถ้าทุกอย่างถึงช่วงสุกงอมพอดี นายเศรษฐาก็น่าห่วง ส่วนตัวขอฟันธง อย่างเก่งนายเศรษฐา อยู่ได้แค่ปีเดียว ไม่เกินเดือน ธ.ค. 2567 นายกรัฐมนตรีอาจถูกเปลี่ยนชื่อจากนายเศรษฐาเป็นคนอื่น.