ฮัลโหลๆ สัปดาห์สุดท้ายของปี 2566 จ้ะทุกคน อิชั้น “คนสวยหลักสี่” คนที่สวยเริ่ดที่สุดในย่านนี้มาประจำการกันแล้ว ใครคิดถึงอิชั้นก็ขอให้ยกมือขึ้น อิอิ ใครไม่คิดถึงก็ต้องคิดถึงนะคะ เพราะอิชั้นเอาข่าวปัง ข่าวเริ่ด ข่าวสุดดีต่อใจรอบสัปดาห์มาฝากกัน มาอัปเดตกันค่ะ เดี๋ยวตกกระแสนะ ถ้าไม่ติดตามอิอิ ยังไงก็ขอฝากตัวในปี 2567 ด้วยนะคะ อิชั้นคนดีคนเดิมยังอยู่คู่ “เดลินิวส์ออนไลน์” ตลอดไปค่ะ

@ประเดิมข่าวแรกกันที่ข่าวของคู่จิ้นในตำนาน คู่จิ้นที่อิชั้นกรี๊ดตลอดแบบไม่ต้องพักกับ เต-ตะวัน วิหครัตน์ และ นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ ที่โคจรมาชวนจิ้น ฟิน จิกหมอนกันในซีรีส์คู่เรื่อง Cherry Magic 30 ยังซิง ซีรีส์ที่แฟนๆ รอคอยกันทั้งประเทศและทั่วโลก เพราะความน่ารักของทั้งสองคน บวกกับเนื้อหาสุดปังทำให้หลายคนจับตามองและพูดถึงตั้งแต่ซีรีส์เพิ่งปล่อยรูปโปรโมต งานนี้ไม่ต้องพูดถึงเรตติ้ง กระชากจนติดเทรนด์ X และแฟนๆ พากันฟินไม่หยุด ไม่เชื่อติดแฮชแท็กชื่อ #เตนิว สิรับรองรู้เรื่องอิอิ และถ้าใครอยากดูนะก็ที่แอปนี้เลยจ้า VIU จ้า

@ต่อกันที่ข่าวของ หลิน-มชณต สุวรรณมาศ, ปริมมี่-วิพาวีร์ พัทธ์ณศิริ, มิ้นท์-ภัทรศยา ยงรัตนมงคล และ แจน-ใบบุญ อรุณปรีชาชัย ที่ขอส่งแคมเปญ Iwish 2024 มาเป็นพลังให้กับทุกคนในการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ ที่เราตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2024 ที่กำลังจะมาถึง โดยสาวหลิน ขอเป็นตัวแทนเพื่อนๆ กล่าวว่า “สำหรับแคมเปญนี้เป็นการรวมตัวของพวกเราที่อยากถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ เป็นการมา recap สิ่งที่ผ่านมาของพวกเราในปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งเป้าหมายให้กับตัวเองในปี 2024 ต่อไป ลองมาติดตามคลิปของพวกเราได้ที่ หรือมาแชร์เรื่องราวของทุกคนให้พวกเราได้ที่ อินสตาแกรมส่วนตัวของพวกเรา ยังไงพวกเราทั้ง 4 คน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนประสบความสำเร็จในทุกเป้าหมายที่ตั้งไว้นะคะ Happy New Year 2024 ค่ะ”

@ต่อกันที่ข่าวของ บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ ที่เพิ่งเข้าพิธีรับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยสยาม ที่ให้เกียรติมอบให้กับบุคคลซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญในด้านสื่อสารมวลชน และศิลปะการแสดง และมีผลงานอันทรงคุณค่าเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน ไม่ว่าจะเป็นละครเวที, ละครโทรทัศน์ ที่ส่งผลให้เกิดแรงกระตุ้นต่อสังคมในทางสร้างสรรค์ นับเป็นปริญญาดุษฎีบัณฑิตใบที่ 3 ที่ บอย-ถกลเกียรติ ได้รับ โดยงานนี้มี กณิการ์ วีรวรรณ ภรรยาคนสวย พร้อมด้วยครอบครัว รวมถึงศิลปินนักแสดงจากช่อง one31 มาร่วมแสดงความยินดีกับบิ๊กบอสบอยกันอย่างพร้อมหน้า อาทิ ปลื้ม ธยศทรณ์, โตโต้ ธนเดช, ผิงผิง สรวีย์, ภูมิ แก้วฟ้าเจริญ ฯลฯ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความปลาบปลื้ม และเต็มไปด้วยความอบอุ่น

@ยาวๆ กันที่ข่าวของศิลปินเจนใหม่ไฟแรง Good Mood แห่งค่ายออริจิ้น มิวสิค ปล่อยซิงเกิลใหม่ “ปล่อยให้ฉันรักเธอก่อน” ครั้งแรกของการร่วมงานกับนางเอก MV สุดสวย เจนิส เจณิสตา ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความรักในแบบลึกซึ้ง

“ผมรู้สึกปลื้มมากครับ ได้มีโอกาสร่วมงานกับนางเอกที่ปลื้มมานาน!! เป็นงานที่รู้สึกท้าทายมากๆ สำหรับเรื่องการแสดง ร่วมงานครั้งแรกรู้สึกว่าเกร็งมากครับ แต่ด้วยความที่พี่เจนิสเป็นกันเองมากๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้น และตอนเข้าฉากด้วยกัน พี่เจนิสก็น่ารักมาก รู้สึกทั้งเขิน และบรรยากาศในกองถ่ายถึงจะเช้าและดึกมาก แต่ก็สนุกมากๆ ได้รับประสบการณ์ดีๆ อีกเยอะเลยครับ ยังไงฝากติดตามเพลง ปล่อยให้ฉันรักเธอก่อน ด้วยนะครับ เพราะทั้งผม วง Good Mood พี่เจนิสและทีมงานทุกคนทุ่มเทมากครับ”

@มากันที่ข่าวของเก็บตกความน่ารักซานตี้ในงาน BNK48 Christmas Party & Miori BNK48’s Graduation Ceremony ปาร์ตี้ส่งท้ายปีจากศิลปินไอดอล BNK48 โดยมีเมมเบอร์กว่า 40 คน ร่วมประชันคอสตูมสุดปัง ในธีม GIVE ME CHRISTMAS เรียกว่าขนความฮา ทั้งขายขำ ขายสวยครบบนเวที ให้แฟนๆ ได้ส่งเสียงกรี๊ดกันอย่างสนุกสนาน จากนั้นส่งต่อเวทีด้วยการแสดงส่งท้าย “มิโอริ โอคุโบะ” BNK48 รุ่นที่ 1 จบการศึกษา โดยมีแขกรับเชิญอย่าง เจนนิษฐ์, โมบายล์, ปูเป้, น้ำหนึ่ง, ปัญ, ก่อน, น้ำใส, แก้ว, ปูเป้, ตาหวาน, จ๋า, จิ๊บ จากอดีตสมาชิก BNK48 รุ่นที่ 1 พร้อมด้วย เฌอปราง อารีย์กุล ชิไฮนิน จาก BNK48 และ รินะ อิซึตะ ชิไฮนิน จาก CGM48 โดยมิโอริ เผยว่า “ในงานมีแฟนคลับมาให้กำลังใจเยอะมาก ไม่คิดว่าจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ขอบคุณทุกคนที่คอยเชียร์มิโอริมาจนถึงวันนี้ รักทุกคนมากๆ เลยนะคะ ตลอดเวลาที่อยู่ใน BNK48 ได้เรียนรู้การพัฒนาภาษาไทยที่เยอะที่สุด ตอนแรกพูดไม่ได้เลย คุยกับเพื่อนก็ไม่ได้ ตอนนี้คุยได้แล้ว ไม่ใช่แค่ภาษาไทย การเต้น การร้องเพลง ได้พัฒนาตัวเองมากขึ้น ดีใจที่เข้ามาอยู่ใน BNK48 แล้วมีเพื่อนๆ ช่วยเหลือมิโอริมาตลอด ตั้งแต่ออดิชั่นจนมาถึงวันนี้ ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่อยู่ข้างๆ มิโอริมาตลอด ขอบคุณจริงๆ ค่ะ”

@ยาวๆกันที่ข่าวของนางเอกลิเกคนดัง “แอน มิตรชัย” สาวไทยโกอินเดีย ที่ล่าสุดเปิดตัวลูกชายผ่านสื่อวัย 12 ขวบ “น้องเบส-อารยะ นารายัน” ท่ามกลางความสงสัยของแฟนๆหลายคนว่าลูกชายที่รับมาเป็นลูกบุญธรรมคนนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ล่าสุดควงคู่กันมาตั้งโต๊ะเคลียร์ผ่านรายการโต๊ะหนูแหม่มเล่าละเอียดยิบว่าเด็กคนนี้องค์เทพประทานพรมาให้

แอน เล่าว่า “เด็กคนนี้คือไปขอมาค่ะ ต้องบอกว่าไปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ น้องเบสเนี่ยแอนไปขอมาจากพระนารายณ์ ตอนที่ไปอินเดีย คือเรารู้สึกว่าอยากมีลูก แต่ไม่พร้อมที่จะทำเอง ปั้นเอง ไปขอมาแล้วก็ได้เค้ามา ด้วยเวลาด้วยจังหวะอะไรหลายๆ อย่าง คือตอนนั้นอุ้มน้องอยู่ตอน 5 เดือน แล้วรู้สึกว่ารักและเอ็นดูมากเลย อุ้มอยู่แล้วก็น้ำตาไหล ก็เลยบอกว่าถ้าเราบุญเกื้อกูลกัน มีวาสนาซึ่งกันและกัน ให้หนูลืมตาขึ้นมามองแม่ได้ไหม เพราะว่าตอนเราอุ้มเค้าเค้าหลับอยู่ แล้วตอนนั้นเค้าก็ลืมตาขึ้นมามองเรา ก็เลยรู้สึกว่าใช้แล้วเค้าเป็นของเรา ถือว่าเค้าเก่งนะอายุเท่านี้ ซึ่งเอาจริงๆ เราก็ไม่คิดว่าเค้าจะมีพรสวรรค์ในด้านการแสดง ร้องเพลงลิเกเอาหมด ซึ่งเราต้องบอกว่าขนาดคนที่เป็นสายเลือดเราเอง ก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะเอากับเรา แต่หนึ่งในร้อย มันฉายแววออกมาหรือว่าเค้าเอา เค้ามีมาอย่างน้อยเราก็ควรที่จะซัพพอร์ตเค้า ตอนแรกก็ดูทิศทางอยู่เหมือนกันว่าเค้าเอามั้ย แต่เบสเค้ามาบอกเองว่าแม่เบสอยากเล่นลิเก แล้วเบสเค้าจะเป็นเด็กดีอยู่อย่างหนึ่งคือว่าเค้าชอบดูงานของแอน เด็กส่วนมากจะไม่ค่อยสนใจงานพ่อแม่สักเท่าไร แต่เบสเค้าจะดูทุกอย่างเปิดลิเกเค้าก็ดู”

“ความจริงลิเกกับสายเทพอินเดียมันไม่หนีกันอยู่แล้ว เขาอาจจะมีความผูกพันกับพระศิวะตั้งแต่เด็กตั้งแต่เกิดตั้งแต่โต เกิดมาก็เห็นใครไม่รู้เอารูปพระศิวะมาติดที่ห้องแอนเต็มไปหมดเลย มันก็เลยทำให้แอนคุ้นตามีเรื่องเล่าต่างๆ แต่ละคนจะมีเทพต่างกัน อย่างน้องเบสเป็นพระนารายณ์ แอนไปไหว้ขอน้องเบสมาจากวัดอักชารดาห์ม ที่อินเดีย ตอนนั้นรู้สึกว่าอยู่ดีๆ ก็อยากมีลูก ทำไมเราทำไม่ได้ตอนแรกก็คิดว่าจะทำกิฟต์ทำอะไร ฝากไข่อะไรแบบนี้ มีไปถามมาไว้บ้าง แต่พอไปบอกเล่ากับท่านสุดท้ายก็ได้มา ภายในปีเดียวคือมีอยู่ครั้งนึงที่ทำให้แอนเชื่อ สิ่งที่มันเป็นปาฏิหาริย์ในชีวิตของแอนก็คือการที่เล่นหนังอินเดีย ที่ผ่านมาแอนจะถือศีลตลอด มีกระท่อมเล็กๆ ของแอนไว้จำศีล ที่ผ่านมาแอนจะถือศีลแต่ไม่เคยขอ จนมีอยู่ครั้งนึงแอนก็เข้าไปขอ ขอว่าขอไปทำงานที่อินเดียได้มั้ย หนูอยากไปทำงานไปสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยทั้งๆที่เราไม่เคยไป แล้วมันก็ได้ไปตอนนั้นคิดแค่ว่าจะไปร้องเพลง จนมันได้เล่นหนัง มีอยู่ตอนนั้นแอนก็ไปบวชให้พระศิวะ ที่วัดที่อยุธยา หลังจากนั้นก็มีคนติดต่อมาให้ไปแคสต์หนังอินเดีย คือเพิ่งถวายบุญให้ท่านออกมาจากวัดพอดีก็มีคนโทรฯมา ย้อนไปก็ไม่คิดเหมือนกันว่าทำไมเราคิดถึงอินเดีย เราเคยเกิดที่นั่นหรือเปล่าก็ไม่รู้”

@มากันที่ข่าวของวงการสตาร์ทอัพคึกคักอีกครั้ง เมื่อ ทรู ซีเจ ครีเอชั่นส์ (True CJ Creations) เตรียมส่งซีรีส์สร้างแรงบันดาลใจ “START-UP” ประเดิมต้นปี 2567 เรื่องราวชีวิต ความรัก และความฝันของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากทำธุรกิจสตาร์ทอัพ แต่การจะได้ลิ้มรสความสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีการแข่งขัน งัดชั้นเชิง และมันสมองมาฟาดฟัน รวมถึงยังมีเรื่องราวความทรงจำในอดีต ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจในปัจจุบัน ให้ได้ลุ้นไปพร้อมกันกับพวกเขา นำทีมก้าวตามฝันโดย 4 นักแสดงแห่งยุค อัพ-ภูมิพัฒน์ เอี่ยมสำอาง รับบท “กรณ์” อัจฉริยะรอบด้านแต่ขาดความทะเยอทะยาน, เบลล์-เขมิศรา พลเดช รับบท “พาฝัน” สาวมุ่งมั่นสดใส ใช้หัวใจนำทาง, เกรท-สพล อัศวมั่นคง รับบท “จิรภัทร” ฉลาด เนี้ยบ เก่งเรื่องธุรกิจการลงทุน,  ก้อย-อรัชพร โภคินภากร รับบท “อลิส” สาวเก่ง มั่นใจ ใช้สมองขับเคลื่อนชีวิต มองแต่ความสำเร็จข้างหน้า ร่วมด้วยนักแสดงอีกคับคั่ง

START-UP” บอกเล่าเรื่องราวของ พาฝัน (เบลล์-เขมิศรา) หลังจากพ่อแม่แยกทางกัน เธอเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับพ่อ อาทิตย์ (อิง-อชิตะ) และย่า บุษบา (นีรนุช ปัทมสูต) อย่างขัดสน ในขณะที่พี่สาว อลิส (ก้อย-อรัชพร) เลือกอยู่กับแม่ ลีลาวดี (เข็ม-กฤตธีรา) และใช้ชีวิตสุขสบายกับพ่อเลี้ยง บัณฑูร (ปู-สหจักร)  หลังจากพ่อเสีย พาฝันได้เจอกับอลิสอีกครั้ง และโดนดูถูกว่าการตัดสินใจอยู่กับพ่อเป็นทางเลือกที่ผิด เธอจึงโกหกว่ากำลังทำธุรกิจ และคบหาอยู่กับ กรณ์ (อัพ-ภูมิพัฒน์) เรื่องกลับยิ่งวุ่นวาย เมื่อกรณ์ที่เธอรู้จักทางจดหมายตอนเด็กกับกรณ์ตัวจริงเป็นคนละคนกัน! พาฝันพยายามตามหากรณ์ พอบุษบารู้ จึงให้ จิรภัทร (เกรท-สพล) ช่วยตามหากรณ์ก่อนพาฝันจะรู้ความจริง กรณ์ตั้งบริษัทเล็กๆ กับเพื่อนๆ ธนากร (เล-ทะเล), คิรากร (มาร์ท-กฤษณะ) ชื่อว่าสามกรไทยเทค และมีความใฝ่ฝันที่อยากจะเข้า Sandbox เหมือนกับพาฝัน จนวันหนึ่งพวกเขาก็สามารถเข้า Sandbox ได้สำเร็จ เป็นจังหวะเดียวกับอลิสที่ลาออกจากบริษัทของพ่อเลี้ยงและเริ่มต้นนับหนึ่งสร้างบริษัทของตัวเอง โดยการเข้า Sandbox เช่นกัน จิรภัทรผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกรณ์และพาฝันใน Sandbox ต้องเจอกับเรื่องยุ่งยากใจ เพราะเขานี่แหละคือกรณ์ในจดหมาย! ร่วมลุ้นไปกับความฝันของพวกเขา ที่พยายามใช้หัวใจ สมอง และสองมือ เพื่อสานฝันและสร้างโลกที่น่าอยู่ในอนาคต แต่เส้นทางการเป็นบริษัทสตาร์ทอัพก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่พวกเขาคิด

งานนี้ อัพ ฝากถึงซีรีส์ที่ทีมนักแสดงและทีมงานตั้งใจอย่างมากว่า “ความรู้สึกแรกคือตื่นเต้น ดีใจที่ได้เล่นซีรีส์เรื่องนี้ ทำความเข้าใจกับบท และทำการบ้านเยอะมาก ส่วนการเปรียบเทียบ ต้องมีอยู่แล้วครับ ด้วยความที่เป็นรีเมค แต่ผมรู้สึกว่าแต่ละประเทศ เขาก็จะมีการใส่อะไรบางอย่างที่เป็นองค์ประกอบของแต่ละประเทศเข้าไป ซึ่งของไทยเราก็จะมีความเป็นไทย มี Culture ของไทยใส่เข้ามา ผมรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้แหละ คือสิ่งที่น่าสนใจของการดูซีรีส์รีเมคครับ แต่ที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา ก็คือต้องทำให้เต็มที่ ให้เป็นตัวละครในแบบของเรา ฝากทุกคนติดตามกันด้วยนะครับ” ติดตามชมซีรีส์ทางทรูไอดี (True ID)ได้เลยจ้าอิอิ

แหม..หมดเวลาแล้ว และหลายคนบอกยังไม่อิ่มหนำใจ ยังไงก็รบกวนรอปี 2567 เลยนะคะ เพราะเราเตรียมข่าวปัง ข่าวเริ่ด ข่าวแซ่บรอบสัปดาห์ไว้รอคุณแล้ว ห้ามพลาดนะจ๊ะ และต้องขอสวัสดีปีใหม่แฟนๆ ทุกคนด้วยจ้า แล้วพบกันนะคะ


คอลัมน์ “เม้าท์ 2 เม้าท์”

โดย “คนสวยหลักสี่”