กรณีผู้เสียหายแม่ลูกอ่อน อายุ 26 ปี อุ้มลูกอายุ 6 เดือน ขายแซนด์วิชหน้าโรงเรียนนิเวศ เข้าขอความช่วยเหลือจากกลุ่มสายไหมต้องรอด เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อให้ช่วยค้นหาชายคนหนึ่ง ที่มาซื้อแซนด์วิชและจ่ายเงิน 100 บาท ฉีกขาดครึ่ง มาหลอกซื้อแซนด์วิชชิ้นละ 20 บาท และได้รับเงินทอนไป 80 บาท ทำให้แม่ค้าผู้เสียหายเกิดความเครียดเกือบทำร้ายตัวเอง ต่อมาได้เข้าแจ้งความที่ สน.บางเขน

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เชิญตัวนายอาชวิน ครุฑวิชิต อายุ 43 ปี ผู้ก่อเหตุนำธนบัตรใบละร้อยฉีกครึ่งไปซื้อแซนด์วิชจากแม่ค้าแม่ลูกอ่อน ทำเอาแม่ค้าเครียดเกือบฆ่าตัวตาย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ณัฐชัย คนสูง สว.(สอบสวน) สน.บางเขน และผู้เสียหาย

นายอาชวิน รับสารภาพว่า เป็นคนใช้ธนบัตรครึ่งใบไปหลอกซื้อแซนด์วิชจากผู้เสียหายจริง โดยไม่ทราบมาก่อนว่าผู้เสียหายมีอาการซึมเศร้าและมีลูกเล็กแบบนี้ ทั้งนี้ เมื่อทราบว่าผู้เสียหายต้องเจออะไรบ้าง ก็รู้สึกใจหาย อยากจะขอโทษในสิ่งที่ตนเองทำลงไป นอกจากนี้ยังยอมรับว่าเคยใช้ธนบัตร 100 บาทครึ่งใบ ไปหลอกซื้อของจากผู้เสียหายรายอื่นๆ ทั่วกรุงเทพฯ รวมแล้วมากกว่า 100 ครั้ง ซึ่งในแต่ละวันจะพยายามหลอกผู้เสียหายให้ได้เงินรวม 200 บาท นำเงินไปซื้อยาบ้าในราคา 3 เม็ด 100 บาทมาเสพ ที่ผ่านมาเคยทำพลาดและถูกผู้เสียหายรุมกระทืบมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังคงใช้แผนการเดิมอยู่

จากนั้นนายเอกภพได้พาตัวนายอาชวิน ไปพบผู้เสียหายภายในห้องไกล่เกลี่ยของ สน.บางเขน ผู้เสียหายได้พาลูกอายุ 6 เดือนมาด้วย เมื่อพบหน้ากันนายอาชวิน ได้ทรุดลงไปกล่าวขอโทษและสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก ผู้เสียหายนิ่งเฉย ก่อนที่พนักงานสอบสวน สน.บางเขน จะพาไปลงบันทึกประจำวัน พร้อมส่งตัวให้ฝ่ายสืบสวนทำประวัติ พร้อมตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะเพื่อส่งบำบัดตามขั้นตอนต่อไป