สยองโรคไบโพลาร์! หนุ่มใหญ่สุดเพี้ยน ฆ่าตัดหัวแม่ตัวเอง ก่อนโทรฯแจ้งตำรวจ

เว็บไซต์ NJ.com รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เจฟฟรีย์ ดี เซอร์เจนท์ ชายหนุ่มวัย 46 ปีจากนิวเจอร์ซีย์ โทรฯแจ้งหาตำรวจเพื่อเหตุฉุกเฉินพร้อมกับสารภาพว่าเขาเป็นคนลงมือฆาตกรรมแม่ของเขาเอง

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงสถานที่ตามที่แจ้งไปในอาคารอพาร์ตเมนต์ชื่อว่าโอเชียนซิตี ย่านเจอร์ซีย์ชอร์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ก็พบศพของ อเล็กซานดรี เอ็ม เซอร์เจนท์ วัย 74 ปี อยู่ตรงโถงทางเข้าห้องพักซึ่งเป็นที่อยู่ของลูกชายของเธอ

รายงานข่าวระบุว่า ตอนที่ตำรวจไปถึงนั้น เซอร์เจนท์ซึ่งอยู่ในลักษณะเปลือย  ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด กำลังนอนทับร่างที่ไร้ศีรษะของแม่ของเขา

เจ้าหน้าที่พบศีรษะของ อเล็กซานดรี ตกอยู่ห่างจากจุดที่ เซอร์เจนท์ กำลังนอนอยู่ประมาณ 2-3 ฟุต 

หลังจากตรวจสอบหลักฐานจากคลิปของกล้องวงจรปิด ก็พบว่าภาพขณะที่ศีรษะของ อเล็กซานดรี โดนโยนออกมาจากห้องพักของเซอร์เจนท์และไปตกอยู่ที่โถงทางเข้า ขณะที่เซอร์เจนท์ซึ่งเปลือยกายอยู่ ก็ลากศพของเธอตามไปยังโถงทางเข้าด้วย

ผู้ต้องสงสัยยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเขามีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตหลายประการและตะโกนคำว่าขอโทษในระหว่างที่โดนควบคุมตัว พร้อมกับร้องเพลง “Jesus Loves Me” ไปด้วย

สำนักงานอัยการของเขตโอเชียนเคาน์ตียืนยันว่า เซอร์เจนท์มีประวัติว่าป่วยทางจิตจริงและมีปัญหาสุขภาพจิตหลายอย่าง รายงานข่าวระบุว่า เซอร์เจน์เป็นคนพูดเองว่าเขาป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ในระหว่างที่โทรฯแจ้งเหตุฉุกเฉิน

หลังจากจับกุม เซอร์เจนท์ ก็โดนส่งตัวไปยังโรงพยาบาลผู้ป่วยทางจิตและโดนตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนในระดับที่ 1 และใช้อาวุธก่ออาชญากรรมร้ายแรง โดยบันทึกของศาลระบุว่าเขาใช้มีดตัดศีรษะของแม่ของเขาจนแยกขาดออกจากร่าง

ที่มา : nydailynews.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, GoFundMe.com