นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) มีมติเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรืออีเอชไอเอ โครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทน เครื่องที่ 8-9 อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง และรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ โครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1-2 อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากนี้ กฟผ.จะปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดในรายงานฯ อย่างเคร่งครัด พร้อมเติมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาชีวอนามัยและความปลอดภัยช่วงการก่อสร้างโครงการฯ ตามความเห็นของคณะกรรมการฯ
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทน เครื่องที่ 8-9 และโครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1-2 เป็นโครงการตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 โดยโครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทน เครื่องที่ 8-9 มีขนาดกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 600 เมกะวัตต์ มีแผนจ่ายไฟเข้าสู่ระบบในปี 69 เพื่อช่วยรักษาความมั่นคงระบบไฟฟ้าภาคเหนือ ทดแทนกำลังผลิตไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะเดิมที่จะถูกปลดออกจากระบบเนื่องจากหมดอายุการใช้งาน และโครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1-2 มีขนาดกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 1,400 เมกะวัตต์ มีแผนจ่ายไฟเข้าสู่ระบบ ชุดที่ 1 ในปี 2570 และชุดที่ 2 ในปี 72 เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าภาคใต้ รองรับการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภาคใต้
ทั้งนี้ทั้งสองโครงการมีแผนจะก่อสร้างบนพื้นที่โรงไฟฟ้าเดิม เนื่องจากมีความพร้อมของระบบส่งไฟฟ้าจึงช่วยลดการลงทุนก่อสร้างระบบส่งไฟฟ้า ทำให้ไม่เพิ่มต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า ช่วยรักษาเสถียรภาพระบบไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศ ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศให้ขยายตัว ช่วยสร้างอาชีพและรายได้ ทำให้เกิดการจ้างงานคนท้องถิ่น ชุมชนยังได้รับงบประมาณพัฒนาชุมชนจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อนำไปพัฒนาชุมชนด้านต่างๆ อาทิ ด้านการศึกษา การส่งเสริมอาชีพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
“กฟผ. ยังมีแผนมุ่งสู่คาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ ลดการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินลิกไนต์ของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ในปัจจุบันมีกำลังผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 2,455 เมกะวัตต์ จะทยอยปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะเดิมลง เมื่อถึงปี 69 จะเหลือโรงไฟฟ้าแม่เมาะเพียง 2 เครื่อง รวมกำลังผลิตไฟฟ้า 1,315 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าใหม่ที่มีประสิทธิภาพ และจะเพิ่มการผลิตไฟฟ้าในโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำแบบไฮบริด ซึ่งเป็นการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน ปัจจุบันมีกำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ ณ เขื่อนสิรินธร โดยจะเพิ่มในเขื่อนต่างๆ จนครบ 2,725 เมกะวัตต์ ตามแผน พร้อมรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดในอนาคต”