ขุนพลโปลิศ เทโร ทนไม่ไหวแล้ว หลังถูกค้างค่าจ้างมาเกือบครึ่งปี จะคุยกับสโมสร ก็ไม่รู้จะคุยกับใคร เคว้งไปหมด ล่าสุด ยกทีมมาร้องเรียนที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กับ บริษัท ไทยลีก จำกัด

“ตี๋” สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นักเตะรุ่นเก๋าของทีม นำรุ่นน้องนักตะมังกรโล่เงิน มายื่นเรื่องร้องเรียน เรื่องการไม่ได้ค่าจ้างจากสโมสร เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีผู้แทนของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ออกมารับหนังสือ

สินทวีชัย กล่าวว่า กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือให้ บจก.ไทยลีก และ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ช่วยเป็นตัวกลาง หาทางออก ปกติในทีมก็คุยกันอยู่แล้ว แต่ตนไม่มีโอกาสคุยกับผู้มีส่วนได้เสียที่มีผลทางกฎหมาย สถานการณ์ตอนนี้ยากลำบากมากๆ แบบไม่เคยเจอ สุดจะผลักดัน ทุกคนไม่ทราบว่า ทิศทางของทีมเป็นอย่างไร นโยบายจะรับจากใคร ทราบเรื่องจากนักข่าว

นายทวารมากประสบการณ์ กล่าวว่า ปัญหานี้ มีมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว ตอนนั้นเข้าใจได้ว่าด้วยสภาพเศรษฐกิจ ด้วยโควิด แค่ 2 เดือนครึ่งพอไปได้ ตอนนี้เป็น 5 เดือน เข้าสู่อีกเดือนหนึ่งแล้ว สโมสรจ่ายบ้าง บางเดือนไม่จ่าย จ่ายไม่เต็มบ้าง สะสมกันมา มูลค่าตอนนี้ 500 เปอร์เซ็นต์ บางคนมีสัญญาติดค้างต่อเนื่องจากฤดูกาลที่แล้ว ตอนนี้ทุกคนพร้อมเผชิญกับทุกสิ่งที่จะเกิด ขอแค่ออกมาคุยกัน ออกมาแสดงความชัดเจน ใครคือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับสโมสรนี้ มีอำนาจตัดสินใจว่า จะเดินหน้าต่อไป หรือจะลดขนาด หรือจะไม่ส่ง ทุกคนผลักดันกันจนสุดความสามารถแล้ว ถ้าปล่อยให้นานกว่านี้ จะเป็นปัญหาที่ เราไม่สามารถไปแข่งขันได้

“ด้วยชีวิตจริง ความเป็นจริงต้องกินต้องใช้ ตอนนี้ช่วยเหลือกัน หยิบยื่นกัน ผลักดันกัน มันสุดแล้ว ส่วนเรื่องใครจะย้ายทีมหรือไม่ เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน”

สินทวีชัย กล่าว พร้อมบอกว่า ฟุตบอล เป็นกีฬาอาชีพ ที่ต้องเลี้ยงดูปากท้องได้ คงไม่ใช่แค่ โปลิศ เทโร ที่มีปัญหา แต่มากน้อยว่ากันไป ส่วนการแก้ปัญหาระยะใกล้ ต้องผลักดันให้แต่ละวัน มาซ้อมกันให้ได้ ก่อนผลักดันให้แข่งให้จบเลกแรก ที่เหลือ 2 เกม ไม่รู้จะพยายามมากพอขนาดนั้นไหม แม้นักเตะต่างชาติ ก็ได้รับความเดือดร้อนมาก

เมื่อถามว่า ได้คุยกับผู้บริหารสโมสรหรือไม่ สินทวีชัย กล่าวว่า ด้วยความสัจจริง ตนยังไม่ทราบว่า ใครมีส่วนได้ส่วนเสียกับสโมสรนี้ ใครมีสิทธิทางกฎหมาย ที่จะมาตอบกับนักเตะได้ ไม่สามารถคุยกับใครได้ในสโมสรแล้ว วันนี้จึงต้องมาแจ้งสื่อกลาง คือ สมาคม กับ บจก.ไทยลีก สโมสรก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบ ถ้าทีมไม่สามารถเดินต่อได้ ก็กระทบภาพรวม

เมื่อถามว่าที่ผ่านมา อยู่กันอย่างไร สินทวีชัย กล่าวว่า “มันลำบาก หยิบยืมกัน ไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่ความลำบาก แต่ละคนไม่เท่ากัน คิดว่าใครมาเจอก็อยู่ยาก”

ส่วนเรื่องว่าจะฟ้องต่อสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) หรือไม่ สินทวีชัย ที่เป็นนายกสมาคมนักฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นขั้นตอนต่อไป ตนพยายามผลักดันป้องกันการเกิดเรื่องแบบนี้ ทำงานไม่ได้ค่าจ้าง จะเป็นอาชีพได้อย่างไร พยายามผลักดันให้มีสัญญามาตรฐาน นักเตะต่างชาติตอนนี้ย้ายได้เลย ส่วนคนไทยต้องรอลายเซ็นอนุมัติ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใคร เป็นความยุติธรรมไม่เท่ากัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มาชมเกม โปลิศ เทโร บ่อยๆ มีอะไรอยากฝากถึงหรือไม่ สินทวีชัย กล่าวว่า ฝากถึงวงการฟุตบอลไทยดีกว่า เพราะเป็นกีฬาที่ประชาชนนิยมมาก เรื่องแบบนี้สามารถเปลี่ยนได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจ ถ้าแบ่งใจให้วงการฟุตบอลไทย อะไรที่แก้ไขด้วยระบบ ด้วยกฎหมายได้ ปัญหาจะน้อยลง เป็นส่วนสำคัญของกีฬาอาชีพ

สำหรับ โปลิศ เทโร เหลือเกม 2 นัดสุดท้ายเลกแรก วันที่ 17 ธ.ค. เปิดบ้านพบ สุโขทัย เอฟซี และวันที่ 24 ธ.ค. เยือนจ่าฝูง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด.