เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 13 ธ.ค. ที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.กานตภณ วรรณา ผกก.สภ.คูคต พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สมบุญจิตร รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.นิเวศน์ นิลวดี รอง ผกก.สส.สภ.คูคต ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายจิรวัฒน์ วงษ์ท้าว อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี จ.940/2566 ลงวันที่ 12 ธ.ค. 66 ในความผิดฐาน “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีหรือใช้อาวุธปืน และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร” พร้อมด้วยของกลาง เครื่องกระสุนปืน .380 จำนวน 1 นัด, อาวุธปืนบีบีกันพร้อมแม็กกาซีน, สกู๊ตเตอร์ สีขาว ที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านวังทอง ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

พล.ต.ท.จิรสันต์ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต ได้รับแจ้งจากจากนักธุรกิจชาวจีน ว่าเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 66 เวลาประมาณ 03.00 น. ตนได้ถูกชายไม่ทราบชื่อ แต่งตัวเป็นพนักงานขนส่ง ใส่เสื้อคลุมสีเขียว สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ พร้อมถืออาวุธปืน เข้ามาภายในโกดังเก็บสินค้าภายในซอยพหลโยธิน 72 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมข่มขู่ให้ส่งมอบเงิน 2,000,000 บาทให้ ด้วยความกลัว และเกรงว่าจะเกิดอันตรายถึงชีวิตของตนกับพนักงานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้ต่อรอง ตกลงกันว่าจะโอนเงินให้ 200,000 บาทให้กับชายคนดังกล่าว และใช้การโอนเงินผ่านระบบธนาคาร ไปยังบัญชีที่คนร้ายให้ไว้ หลังจากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป ซึ่งหลังจากนั้นตนเองจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.คูคต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฝ่ายสืบสวน สภ.คูคต ได้ทำการสืบสวนและติดตามหาตัวคนร้ายผ่านทางข้อมูลบัญชีปลายทางของคนร้าย ทราบชื่อบัญชีว่า นายจิรวัฒน์ วงษ์ท้าว โดยได้ตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎรของบุคคลดังกล่าว พร้อมนำภาพบุคคลดังกล่าวให้ผู้แจ้ง และพนักงานในโกดังที่เกิดเหตุดู ยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับนายจิรวัฒน์ วงษ์ท้าว ต่อศาล ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี จ.940/2566 ลง 12 ธันวาคม 2566 ในความผิดฐาน “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีหรือใช้อาวุธปืน และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร”

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหา ทราบว่าผู้ต้องหาได้อยู่ที่บ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านวังทอง ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงได้ไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวพบผู้ต้องหาอยู่บริเวณหน้าบ้านจึงได้จับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังถูกจับกุมผู้ต้องหาได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าวพบของกลางที่ใช้ก่อเหตุ

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง อ้างว่าจะนำเงินไปรักษาลูกแล้วจะนำเงินมาคืนให้ผู้เสียหายภายใน 6 เดือน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.คูคต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.