จากกรณีแพทย์ทหารบก ยศ พ.อ.และเป็นนายแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ใช้อาวุธปืนยิงภายในหมู่บ้านหมู่บ้านกลางเมือง ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เบื้องต้นคาดว่าไม่พอใจผู้รับเหมาก่อสร้างและคนงานที่มาซ่อมแซมสระน้ำโครงการหมู่บ้านส่งเสียงดัง จนเจ้าหน้าที่ต้องปิดล้อมเจรจาอยู่นานกว่า 5 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นผล กระทั่งประสานหมอเพื่อนผู้ก่อเหตุมาเกลี่ยกล่อมจึงยอมออกมามอบตัว ก่อนตะโกนฟ้องผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวอ้างว่าตัวเองไม่มีปืน ถูกใส่ร้าย เหตุเกิดพื้นที่ สภ.บางแก้ว เมื่อช่วงเย็นถึงดึกวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
เปิดคำพูด ‘พันเอก’ หมอทหารคลั่ง ลั่น ไม่มีปืน จบเตรียมทหารรุ่น 26 โดนใส่ร้าย
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 12 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เดินทางมาบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตัวเอง กระทั่งประสานผอ.โรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนผู้ก่อเหตุมาเจรจร จนยอมมอบตัวดังกล่าว จากนั้นนำตัวมาพูดคุยกับ พล.ต.ท.จิรสันต์ ภายในศูนย์บัญชาการชั่วคราวในสโมสรของส่วนกลางหมู่บ้าน ก่อนให้เจ้าตัวนำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพักพบเพียงปืนเด็กเล่น (ปืนแก๊ป) และปืนอัดลม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นไม่นานมีการนำตัว นายแพทย์ทหาร คนดังกล่าว ขึ้นรถโรงพยาบาลนำตัวออกไป
พล.ต.ท.จิรสันต์ กล่าวว่า เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิต และมีประวัติการรักษามา 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งจากการตรวจสอบโดยผู้ก่อเหตุพาตำรวจไปทำการตรวจค้นบ้านพักพบอาวุธปืนที่ใช้ยิง เป็นปืนแก๊ปลักษณะตรงกับที่พยานบอกคือปืนสีบรอนซ์เงิน ซึ่งถือเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน และยังพบปืนอัดลมอีก 2 กระบอก โดยกรณีสิ่งเทียมอาวุธปืนเมื่อมีไว้ในความครอบครองก็ไม่ถือว่าเป็นความผิด แต่หากจำหน่ายเท่านั้นที่ถือว่าเป็นความผิด ส่วนผู้ก่อเหตุก็เป็นการกระทำความผิดในเรื่องของกระทำให้ผู้อื่นเกิดความตกใจเกิดความกลัวโดยการขู่เข็ญ
ผบช.ภ.1 กล่าวอีกว่า ส่วนอีกกรณีที่ผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยทางจิตกระทำการเสี่ยงจะทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น ก็สามารถดำเนินการได้ตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิตมาตรา 22 ที่ส่งเข้าสู่กระบวนการรักษา โดยตอนนี้จากการพูดคุยผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการสงบและยินยอมกลับไปรักษา ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาของผู้ก่อเหตุได้นำตัวไปส่งยังสถาบันกัลยาราชนครินทร์ ซึ่งเป็นสถาบันที่ผู้ก่อเหตุทำการรักษาตัวอยู่แล้วเพื่อทำการรักษาอาการป่วยต่อไป
