สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ลงพื้นที่เมืองเซเวรอดวินสก์ ในภูมิภาคห่างไกลทางตอนเหนือของประเทศ และมีชายฝั่งติดกับทะเลขาว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อเป็นประธานในพิธีขึ้นระวางประจำการเรือดำน้ำใหม่ 2 ลำ ชื่อ “คราสโนยาร์สก์” และ “จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 3” ซึ่งมีการก่อสร้างตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ปูตินกล่าวว่า เรือดำน้ำทั้งสองลำจะช่วย เพิ่มความมั่นคงและความปลอดภัยให้กับรัสเซีย เพิ่มขีดความสามารถและส่งเสริมความพร้อมของกองทัพเรือรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นในภูมิภาคอาร์กติก ตะวันออกกลาง ทะเลดำ ทะเลบอลติก และทะเลแคสเปียน โดยเรือดำน้ำทั้งสองลำจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือแปซิฟิก และรัสเซียอยู่ระหว่างการสร้างเรือดำน้ำอีก 8 ลำด้วย
อนึ่ง กระทรวงการคลังรัสเซียเปิดเผย เมื่อปลายเดือนก.ย. ที่ผ่านมา ว่างบประมาณสำหรับกระทรวงกลาโหมในปีงบประมาณต่อไป จะอยู่ที่ 10.8 ล้านล้านรูเบิล ( ราว 4.23 ล้านล้านบาท ) เพิ่มขึ้นมากกว่า 68% เมื่อเทียบกับสถิติของปีงบประมาณก่อนหน้า และหากได้รับการอนุมัติจากสภา จะเป็นงบประมาณที่มากกว่าแผนการใช้จ่ายด้านการศึกษา สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อมรวมกัน
ขณะที่ทำเนียบเครมลินกล่าวถึงการเพิ่มสัดส่วนงบประมาณกลาโหม “มีความจำเป็นอย่างมาก” เนื่องจากรัสเซียกำลังเผชิญกับ “สงครามลูกผสม” เนื่องจากการสู้รบกับยูเครน ที่ยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. 2565 กำลังเป็นสมรภูมิซึ่งตะวันตกเข้ามามีบทบาทโดยตรงมากขึ้น ทั้งนี้ สงครามลูกผสม คือการผสมผสานระหว่าง สงครามตามแบบ สงครามการเมือง กับสงครามไซเบอร์ และสงครามนอกแบบ.
เครดิตภาพ : AFP
