ความเคลื่อนไหว การสมัครชิงเก้าอี้สภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่จะมีการเลือกตั้งวันที่ 8 ก.พ.67 หลังจาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ และ “ป๊อก” วรงค์ ทิวทัศน์ มายื่นใบสมัครเป็นนายกสมาคมฯ ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แล้ว ล่าสุด วันที่ 8 ธ.ค.66 เวลา 11.00 น. “พอลลีน” พยุริน งามพริ้ง พร้อมทีมงาน เดินทางมายื่นใบสมัคร โดยทีมงานมีตำนานทีมชาติไทยอย่าง “หนุ่ย” เฉลิมวุฒิ สง่าพล กับ “หลอ เรดาร์” พิชัย คงศรี ด้วย

พอลลีน กล่าวว่า ต้องการเปลี่ยนแปลงฟุตบอลไทยให้เป็นรูปธรรมที่ใกล้เคียงกับการเป็นแถวหน้าของเอเชียให้มากกว่านี้ นโยบายหลักๆ คือเพิ่มรายได้ให้กับสโมสรต่างๆ โดยเฉพาะลีกล่าง รวมไปถึงการพัฒนาเยาวชนที่มีแบบแผนชัดเจน มีทีมงานเพื่อรองรับในจุดนี้ นอกจากนั้นยังเป็นเรื่องของการขยายการตลาด การสร้างฐานผู้ชม ให้สโมสรที่ยังไม่เข้มแข้งสามารถจับปลาด้วยตัวเองได้ ไม่ใช่พึ่งผู้มีบารมีหรือสปอนเซอร์ที่ต้องไปร้องขอแบบเดือนต่อเดือน ปีต่อปี ที่สำคัญคือพื้นฐานการบริหารที่ต้องเป็นกลาง มีความสุจริต มองถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ จุดเด่นของทีมคือมีองค์ประกอบหลายด้าน พร้อมทำงานจริง ไม่ใช่รอเข้าประชุมเพียงอย่างเดียว เพราะคนที่เป็นสภากรรมการสมาคมฟุตบอลควรที่จะทำงานจริงได้ ไม่ใช่ดูแลแต่ผลประโยชน์สโมสรของตัวเอง เชื่อว่าทีมมีความเป็นกลางได้ดีกว่า

“ถ้าเราใช้วิธีเดิมๆ ในการคัดสรรคนมาบริหาร ผลลัพธ์ก็ออกมาแบบเดิม เหมือนกับว่าเราพายเรือวนอยู่ในอ่าง หรือขับรถในสนามเดิมๆ เมื่อเราหันกลับมามองว่าแท้จริงแล้วควรจะเปลี่ยนรถหรือควรจะเปลี่ยนเส้นทาง ซึ่งท้ายที่สุดเราควรจะเปลี่ยนเส้นทาง และทีมเราพร้อมที่เปลี่ยนเส้นทางให้ดีกว่าเดิม”

ส่วนที่ “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนปัจจุบัน เคยกล่าวว่าให้กำลังใจผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมทุกคน แต่ส่วนตัวเห็นว่า “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ที่ลงสมัครชิงตำแหน่งเช่นกันเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุด ส่วนคนอื่นไปไม่รอด ผู้สื่อข่าวถามว่า พอลลีน รู้สึกอย่างไร ได้รับคำตอบว่า “ไม่เห็นด้วย คงพูดได้สั้นๆ แค่นี้ เพราะว่าในเมืองไทยมีคนที่มีความรู้ความสามารถอีกเยอะ ขึ้นอยู่กับว่าจะมองคุณสมบัติไหน ถ้าคุณมองแค่คุณสมบัติของการมีสตางค์อาจจะพูดแบบนั้นได้ แต่ถ้าคุณมองคุณสมบัติของความรู้ ความสามารถ ความรัก ความตั้งใจ ความเป็นกลาง พอลลีนไม่เห็นด้วย แต่ก็เป็นสิทธิ์ที่ท่านจะแสดงความเห็น”

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีเสียงสนับสนุนกี่เสียง พยุริน กล่าวว่า ตนเคารพทุกเสียงของสโมสรที่มีสิทธิ์ออกเสียง ไม่อยากบอกว่ามีเสียงสนับสนุนกี่สโมสร แต่แน่นอนว่าตนมีสโมสรสนับสนุนอยู่ แต่กว่าจะถึงวันเลือกซึ่งมีเวลาอีก 2 เดือนกว่า เพราะฉะนั้นทุกอย่างเกิดขึ้นได้ ถึงวันเลือกตั้งแม้จะไม่ได้สักคะแนนเดียว ก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของสโมสรว่าจะเอาแบบนั้น

“พอลลีน ขอย้ำว่าแม้เราจะเป็นทางเลือกที่เราไม่เคยมีมาก่อน เพราะที่ผ่านมาทุกคนหัวหด ไม่กล้าออกมาสู้ ออกมาเปลี่ยนแปลง พอออกตัวก็ถูกสบประมาท ถูกบล็อก ถูกกีดกันทุกวิถีทาง พอลลีนเชื่อว่าอย่างน้อยต้องมี 10 คะแนนขึ้นไป แม้ไม่ได้ในวันนี้เราถือว่าไม่แพ้ และไม่ยอมแพ้ เราจะทำงานด้านฟุตบอลต่อไป”

พอลลีน กล่าวด้วยว่า ส่วนนโยบายหลัก คือ Thai Football Transformation เพราะฟุตบอลไทยตอนนี้ใช้คำว่า Change แค่เปลี่ยนไม่ได้แล้ว มันต้องเปลี่ยนรื้อระบบใหม่ทั้งหมด

พอลลีน กล่าวอีกว่า สภากรรมการชุดที่เคยประกาศออกไปผ่านทางเพจนั้น ต้องยอมรับว่ามีความพยายามในการจะกดดันให้คนในทีมถอนตัวซึ่งมีถอนออกไป 2 คนคือ “เปาปุ้ม” พงศธร เพิ่มพานิช อดีตผู้ตัดสินฟีฟ่า และ ธร สอระภูมิ โค้ชทีมฟุตบอลอัสสัมชัญ แต่ได้ดึงเข้ามาแทนเป็นโควตาผู้หญิง 2 คนคือ นส.นิษฐา-นส.วรัญรดา ชยะกฤตย์ สาวจากสกลนคร เอฟซี

ด้าน “โค้ชหนุ่ย” เฉลิมวุฒิ กล่าวว่า ยินดีมากที่ได้มาทำงานเพื่อชาติ ส่วนตัวถ้าเป็นประเทศไทยพร้อมทำงานให้อยู่แล้ว ทำแต่งานฟุตบอลมาอย่างเดียว พูดได้โดยไม่ต้องมีสคริปต์แล้ว มีความรู้ที่อัดแน่น อยากเข้ามาพัฒนาคุณสมบัติผู้เล่น พัฒนานักเตะไปสู่ความสำเร็จ จะสร้างนักฟุตบอลตั้งแต่รากหญ้าไปจนถึงชุดปัจจุบัน จะต้องแข็งแกร่งกว่าเดิม นอกจากนี้จะทำให้นักเตะทุกคนเล่นเพื่อชาติ ไม่พูดถึงอัดฉีดเพราะนั่นคือเงินรางวัล ต้องกระตุ้นให้เล่นเพื่อชาติมาก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ พอลลีน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน พล.ต.อ.สมยศ ได้เดินทางมาทำงานที่สมาคมฯ ซึ่ง พล.ต.อ.สมยศ บอกกับ พอลลีน ว่าขอให้โชคดี จากนั้น บิ๊กอ๊อด ได้มาพบ พยุริน อีกครั้ง มีการพูดคุยกัน ซึ่ง พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า พอลลีน อยู่แวดวงฟุตบอลยาวนาน ด้วยประสบการณ์ ถือว่าช่วยนำพาวงการฟุตบอลได้ สำหรับสมาคมบอลฯ นั้น ถ้าโชคดีได้รับความร่วมมือจาก ซาอุดิอาระเบีย ช่วยสร้างศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลทีมชาติ จะช่วยพัฒนาทีมชาติได้ เชื่อว่าแฟนบอลหรือสื่อ จะเป็นตัวช่วยผลักดันให้ใครก็ตามที่เป็นนายก ต้องมีทิศทาง หรือนโยบาย