เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ที่ประชุม กบง. มีมติเห็นชอบให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ที่ 20.9179 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ต่ออีก 3 เดือน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 67 เนื่องจากต้องการบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนและส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

“กระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์ราคาก๊าซแอลพีจีตลาดโลกในช่วงไตรมาส 4 ของปี 66 พบว่า ยังมีแนวโน้มราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยจะกระทบต่อราคาสินค้าและบริการในประเทศส่งผลต่อเนื่องถึงค่าครองชีพของประชาชน กบง.จึงมีมติช่วยเหลือประชาชนโดยการตรึงราคาต่ออีก 3 เดือน”

ทั้งนี้แม้การตรึงราคาตามมติข้างต้น จะทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของบัญชีก๊าซ LPG ติดลบเพิ่มขึ้น 2,000 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันการติดลบสุทธิอยู่ที่ประมาณ 47,764 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 67 โดยกระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ กระทรวงพลังงานจะเร่งบริหารจัดการสถานการณ์พลังงานโดยด่วนเพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน และเพื่อให้ประชาชนได้ใช้พลังงานในราคาที่เหมาะสม เป็นธรรม และยั่งยืนต่อไป