“อวตาร พีเค.แสนชัย” มวยบู๊ถอยไม่เป็น วัย 30 ปี จากสระบุรี พกความมุ่งมั่นตั้งใจมาเกินร้อย ขอล่าแต้มชัยไฟต์ที่สามติดต่อกัน พบกับ “หวัง ไคเฟง” มวยพลังสด วัย 21 ปี จากแดนมังกร ที่จะมาเปิดตัวโชว์ฝีมือเป็นครั้งแรก โดยจะแลกเดือดกันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135 – 145 ป.) ในศึก ONE ลุมพินี 44 วันศุกร์ที่ 8 ธ.ค.นี้ ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา)
สำหรับ “อวตาร พีเค.แสนชัย” เคยตกอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝามาก่อน หลังจากออกสตาร์ตในศึก ONE ลุมพินี ด้วยความพ่ายแพ้แบบฉิวเฉียด 2 ไฟต์ติดต่อกัน ก่อนจะคืนฟอร์มเก่งได้สำเร็จในอีก 2 ไฟต์ต่อมาด้วยการเอาชนะ “คมอาวุธ เอฟเอ.กรุ๊ป” และ “เฟอร์คาน ซิเคก” จนทำให้สภาพจิตใจและความมั่นใจกลับมาเต็มร้อยอีกครั้ง
“หลังแพ้มา 2 ไฟต์ ผมก็กลับมาทำการบ้านครั้งใหญ่ เพื่อดูว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้แพ้ทั้ง ๆ ที่ชกได้ดีแล้ว ซึ่งพอย้อนดู ก็เห็นชัดเลยครับว่าปัญหาหลักคือเรื่องความฟิต ผมจึงปรับการซ้อมใหม่ เน้นวิ่งให้เยอะขึ้น แล้วเพิ่มการซ้อมช่วงเย็นให้หนักกว่าเดิม จนทำให้ไฟต์ที่ 3-4 ผมมีแรงเหลือเยอะมาก ไม่มีอาการหมดให้เห็น จนสามารถเอาชนะมาได้ และทำให้สภาพจิตใจ และความมั่นใจดีขึ้นทันทีครับ”
“อวตาร” มีคิวขึ้นสังเวียนไล่ล่าชัยชนะไฟต์ที่ 3 ติดต่อกัน ด้วยการพบกับนักชกดาวรุ่งฟอร์มแรง อย่าง “หวัง ไคเฟง” ที่ส่งตรงมาจากประเทศจีน โดยจอมบู๊ใจใหญ่จากสระบุรี ไม่ขอประมาทเด็ดขาด พร้อมกับ เตรียมพกพาอาวุธหนักขึ้นเวทีครบทุกลูก โดยเฉพาะอาวุธหมัดที่ได้ “เสี่ยแขก” สมชาย เทศรุ่งเรือง โปรโมเตอร์และหัวหน้าค่าย พี.เค.แสนชัย ลงทุนติวเข้มให้ด้วยตัวเอง
“ไคเฟง เขาชกคิกบ็อกซิ่งบ่อยกว่ามวยไทย ผมคิดว่าการออกหมัดและแข้งของเขาน่าจะอันตรายพอสมควร ส่วนผมก็เก็บตัวซ้อมสำหรับไฟต์นี้มาเดือนกว่า เตรียมอาวุธหนักมาทุกลูกเหมือนเดิม โดยเฉพาะศอกที่เป็นลูกเก่งของผมและเสริมเรื่องความไวในการเข้าออก รวมถึงเรื่องทักษะการออกหมัดที่ได้ลูกพี่เสี่ยแขก มาติวให้เองด้วยครับ”
โดยเป้าหมายของ “อวตาร” ในไฟต์นี้ขอมองไปที่การเอาชนะแบบไม่ครบยกให้ได้เป็นครั้งแรกในรายการนี้ และหวังคว้าโบนัส 3.5 แสนบาทมาสมทบทุนต่อยอดสร้างธุรกิจส่วนตัวในอนาคต พร้อมกับเพิ่มสถิติชนะ 3 ไฟต์รวด เพื่อโอกาสสู่การคว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครองในอนาคต
“รูปเกมผมคิดว่าน่าจะออกมาสนุกดุเดือดแน่นอนครับ ถ้าถามว่าคู่ชกจะเดินหรือถอย ผมไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ ๆ คือผมจะเดินเข้าหาตามสไตล์ของผม และถ้าหากคู่ชกเปิดช่องให้ผมเห็นเมื่อไหร่ ไม่ต้องห่วงครับ ผมเอาถึงน็อกแน่นอน เพราะนอกจากจะเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผมขยับเข้าใกล้การคว้าสัญญานักกีฬา ONE แล้ว ผมยังต้องการนำเงินโบนัสมาเก็บไว้ใช้เป็นทุนเปิดร้านขายของในอนาคตด้วยครับ”
แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมการถ่ายทอดสดทาง Watch.ONEFC.com (บางประเทศ), Facebook & YouTube ONE (บางประเทศ) และทางช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.