ตามที่ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประกาศตัวชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมเปิดตัวสภากรรมการ มีระดับบิ๊กๆ ในวงการลูกหนังไทยเพียบ
อ่านข่าว : ซูเปอร์พาวเวอร์! ‘มาดามแป้ง’เปิดตัวทีมงานชิงเก้าอี้บอลไทย ระดับยักษ์มาครบ
ทั้งนี้ หากเช็กจากคะแนนเสียงที่จะลงคะแนนให้ โดยดูจากสโมสรที่มีสิทธิเลือก จะพบว่า ในทีมมาดามแป้ง มีโหวตเตอร์อยู่แล้วแน่ๆ 12 เสียง จากทั้งหมด 73 เสียง ที่ทีสิทธิเลือก
12 เสียงได้แก่
การท่าเรือ เอฟซี นวลพรรณ ล่ำซำ (นายกสมาคมฯ) ซึ่งกรณีลาออก ประธานสโมสรคนใหม่จะได้สิทธิเลือก
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นายเนวิน ชิดชอบ (ที่ปรึกษา), นายประมูลชัย นพสุวรรณวงศ์ (กรรมการกลาง)
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด นายปวิณ ภิรมย์ภักดี (อุปนายก)
ชลบุรี เอฟซี นายอรรณพ สิงห์โตทอง (อุปนายก)
เมืองทอง ยูไนเต็ด นายวิลักษณ์ โหลทอง (อุปนายก)
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด นายมิตติ ติยะไพรัช (กรรมการกลาง)
พีที ประจวบ เอฟซี นายทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ (กรรมการกลาง)
ราชบุรี เอฟซี นายธนวัชร นิติกาญจนา (กรรมการกลาง)
ชัยนาท ฮอร์นบิล นายอนุรุทธิ์ นาคาศัย (กรรมการกลาง)
หนองบัว พิชญ กฤษยา ภู่มงคลสุริยา (กรรมการกลาง)
ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน (กรรมการกลาง)
ราชประชา พ.ต.ท.หม่อมหลวง กิติบดี ประวิตร (กรรมการกลาง)
ทั้งนี้ จากข้อบังคับลักษณะปกครองฯ ข้อ 30.4 ระบุว่า “กรณีมีผู้สมัครในตำแหน่งนายกและอุปนายกจำนวน 2 คนขึ้นไป จะต้องได้รับคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนซึ่งอยู่ในที่ประชุม” นั่นหมายความว่าจากโหวตเตอร์ 73 เสียง ผู้ที่ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง (37 เสียง) จะชนะการเลือกตั้ง
ดังนั้น “มาดามแป้ง” ที่การันตี 12 เสียง ต้องการอีก 25 เสียง ก็จะชนะเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม จำนวนเสียงขึ้นอยู่กับจำนวนสโมสรที่เข้าประชุมในวันเลือกตั้ง ซึ่งอาจไม่ครบ 73 เสียง จากเหตุผลต่างๆ เช่น สโมสรถูกถอดสมาชิกภาพ หรือไม่มาเลือกตั้ง ก็จะหมดสิทธิลงคะแนน
สำหรับจำนวนสโมสรที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงนั้น จะส่งให้สโมสรก่อนการเลือกตั้ง 30 วัน จึงรู้จำนวนที่แน่ชัดว่ามีกี่เสียง และจากไหนบ้าง