เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “โจโจ้ คนชิคชิค” ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์ระทึกขวัญขณะไปรับคนป่วย แต่เกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะญาติปกปิดข้อมูล โดยระบุว่า

30/11/66 #บันทึกไว้ว่านี่คือเหตุการณ์ระทึกขวัญที่สุด
19.45 น.​ รับเเจ้งจาก​ 1669 ชาย​ไทย​กินยาเบื่อหนู​ มีอาการปวดท้อง​ ให้กู้ชีพออกรับที่บ้าน​ ญาติเร่งให้รถออกรับโดยเร็ว​ บอกผู้ป่วยปวดท้องมาก
19.46 น. ซักถามอาการทางโทรศัพท์​ ปฏิเสธการใช้ substance และพยายามบอกให้ทีมไปให้เร็ว
19.47 น. ทีมออก​รับ​ โดยมีพยาบาล ​1 ​คน​ AEMT1 คน​ EMT-B 1 คน​ และ พขร.1 คน
20.15 น. ถึง scene บ้านผู้ป่วยต้องเข้าไปสุดซอย​ และเป็นซอยตัน​ มีชาวบ้านใกล้เคียงออกมาดูที่หน้าบ้านของตัวเอง​มากมาย​ บางคนออกมาเดินที่ถนนภายในซอย โดยมีทีท่าแตกตื่น​

​ในเวลาเดียวกันก็มีสุนัข 3 ตัวเห่า และพยายามวิ่งตามรถกู้ชีพ​ซึ่งขัดขวางต่อการปฏิบัติงาน ทำให้ทีมไม่สามารถออกไปประเมินคนไข้ได้​ เพราะ sceneไม่ safe ระหว่างนั้นได้ยินเสียงดัง​ตุ้บ?! ที่หลังคารถ​ เหมือนของแข็งกระทบที่หลังคา​ แต่มองไม่เห็นว่าเป็นอะไร​ เพราะรอบๆ เป็นป่า​มืดสนิท​ ไม่มีแสงสว่างนอกจากแสงจากตัวรถ และชาวบ้านเริ่มแตกตื่น

ต่อมาได้ยินเสียงเลื่อยไฟฟ้าดังขึ้น…จากนั้นก็ได้ยินเสียงชาวบ้านตะโกนว่าอย่าทำเขา​ วินาทีนั้นสถานการณ์เริ่มไม่ดี ​จึงให้คนขับรถ​ล็อกประตู​และรีบถอยรถออกจาก scene ซึ่ง scene มันเป็นซอยตันและแคบ​มากต้องเข้า-ออกทางเดียว​

ทันใดนั้น​ก็ได้ยินเสียงดังจากท้ายรถ พขร.มองจากกระจกมองข้าง เห็นคนไข้​เอาเลื่อยไฟฟ้า​เข้ามาเฉือนกระจกประตูท้ายรถตู้​ ซึ่งมี EMT-B ​อยู่ท้ายรถตู้ ซึ่งหลบได้ทัน​ไม่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนไข้ก็ใช้เลื่อยไฟฟ้ามาเฉือนกระจกด้านข้างซ้ำบริเวณใกล้เคียงกับบริเวณส่วนหน้ารถตู้ที่มี​เจ้าหน้าที่โดยสารอยู่​ ขณะนั้นทุกคนในรถพยายามหลบเข้าไปใต้ท้องรถ​เพื่อป้องกันอันตราย​ และร้องไห้​ด้วยความหวาดกลัวเหมือนกำลังเผชิญกับความอันตราย/ความตาย​

ทุกคนเพ่งมองไปรอบตัวรถว่าใครคือคนทำ​ และคนทำอยู่ทิศทางไหนของรถ แต่มองไม่เห็นเลย​เพราะรอบข้างมืดมาก​ เหมือนเราเป็นเป้า!​ เราร้องขอความช่วยเหลือให้หยุดแต่ไม่มีใครช่วยเราได้​ นอกจากเราต้องรีบออกจากจุดนี้

ท้ายที่สุด​ พขร.ทำหน้าที่ได้ดี​มาก​ พยายามกลับรถในช่องทางแคบ​โดยเร็ว และพาทุกคนออกจากพื้นที่อันตรายมาได้โดยปลอดภัย​ สรุปคนไข้คลุ้มคลั่งยาเสพติด ญาติปกปิดข้อมูลไม่ยอมบอกความจริง ขอบคุณสุนัข 3 ตัวที่เห่า ไม่ยอมให้ลงจากรถ วินาทีนั้นคือหวาดกลัวสุดๆ แต่พอรอดออกมาได้ทุกคนกอดให้กำลังกันและโล่งใจที่สุด

ตอนนี้ทุกคนมีกำลังใจที่ดีแล้ว ไม่ได้ panic หรือ PTSD ขอบคุณพลังของ ERTream ที่คลี่คลายวิกฤตินี้ไปได้ด้วยดี 1669 ยังคงทำงานอย่างหนัก 1669 โทรฯ ได้กรณีอุบัติเหตุและเจ็บป่วยฉุกเฉินเท่านั้น! ขอความกรุณาหากพบคนคลุ้มคลั่งให้แจ้งตำรวจไม่ใช่ให้รถพยาบาลออกรับ ขอความกรุณาอย่าปกปิดบิดเบือนความจริง ความเสี่ยงเกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกวินาทีทุกคนที่ทำงาน EMS โปรดศึกษาจากเคสนี้ด้วยนะ ทีมยังคงทำงานได้ปกติดีเพราะมีพลังใจที่แข็งแรงและเข้มแข็ง