เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.พลวรรธน์ พุ่มสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง พ.ต.ต.วุฒิชัย บุญยู้ พ.ต.ต.ภาคิน ดอกไม้ สว.สส.สน.ดอนเมือง ร.ต.อ.สมโชค คงตำหนิ รอง สว.สส.สน.ดอนเมือง นำกำลังฝ่ายสืบสวนจับกุมตัวนายภักดี หรือไท แซ่อั้ง อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ จ.787/2565 ลงวันที่ 30 พ.ย.65 ข้อหา“วิ่งราวทรัพย์” พร้อมตรวจยึดสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชีนายสมศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) รวม 3 เล่ม สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชีนายยุทธพิชัย (ขอสงวนนามสกุล) 1 เล่ม บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย 3 ใบ บัตรเครดิต ธนาคารไทยพาณิชย์ 1 ใบ โดยจับกุมได้บริเวณริมถนนปากซอยสรณคมน์ 2 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ได้รับข้อมูลจากสายลับว่าพบชายมีพฤติกรรมน่าสงสัยเข้ามาชักชวนขอหมายเลขบัญชี โดยอ้างว่าตนเองไม่มีบัญชีธนาคาร ต้องการรับเงินโอนที่ญาติจะโอนเข้ามาในบัญชี แล้วจะให้ค่าโอนผ่านบัญชี ซึ่งเกรงว่าจะเป็นการหลอกโอนเงิน หรือหลอกขายสินค้าทางออนไลน์ ตามที่ปรากฏทางสื่อ

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ได้ออกหาข้อมูลของบุคคลดังกล่าวจนทราบชื่อชายคนดังกล่าวคือ นายภักดี หรือไท แซ่อั้ง อายุ 42 ปี จากการตรวจสอบประวัติพบว่ามีหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ จ.787/2565 ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ข้อหา“วิ่งราวทรัพย์” และเคยถูกตำรวจไซเบอร์จับกุมเมื่อปี64 ครั้งนั้นมีผู้เสียหายถูกหลอกขายของออนไลน์นับ 100 รายมูลค่าความเสียหายกว่า 267,000 บาท และยังเคยถูกจับดำเนินคดีแจ้งความเท็จ หลอกว่าตัวเองถูกคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ ไม่มีเงินกลับบ้านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับแจ้งความเกิดความสงสารจึงให้เงินเพื่อกลับบ้าน โดยจะได้ครั้งละ 300-500 บาท สุดท้ายยอมรับว่าแต่งเรื่องเพื่อหลอกขอเงิน

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนติดตามจับกุม และได้รับแจ้งจากสายลับว่าพบนายภักดี หรือไท แซ่อั้ง มาปรากฎตัวอยู่บริเวณริมถนนปากซอยสรณคมน์ 2 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเดินทางไปจุดที่รับแจ้ง และเฝ้าดูพฤติกรรม พบชายไทยไม่ทราบชื่อ มีลักษณะตำหนิรูปพรรณตรงกับนายภักดี หรือไท แซ่อั้ง ยืนอยู่บริเวณริมถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการตรวจสอบพบว่ามีชื่อ สกุลตรงกับบุคคลตามหมายจับจริงจึงนำตัวมาสอบสวนที่ สน.ดอนเมือง

จากการสอบสวนนายภักดี เบื้องต้นรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และก่อนหน้านี้ได้ออกตระเวนขอยืมบัญชีธนาคารเพื่อรับโอนเงินจริง และได้ไปขอยืมบัญชีจากคนขับวิน โดยอ้างว่าจะมีเงินโอนมาจากญาติแต่ตนเองไม่มีบัญชีธนาคาร เมื่อมียอดเงินเข้ามาก็จะจ้างให้ไปกดเงินออกมาครั้งละ 100-300 บาท และยอมรับว่าเงินที่โอนเข้ามาเป็นเงินที่ตนเองหลอกขายมือถือให้ผู้เสียหายทางออนไลน์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เขื่อว่ายังมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้โอนเงิน รวมถึงคนที่ถูกหลอกขอยืมบัญชีเพื่อรับโอนอีกหลายรายหลังจากนี้จะนำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ดำเนินคดีพร้อมตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ตรวจยึดได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้รับเงินที่หลอกมาจากผู้เสียหายรายใดหรือไม่ ถ้าพบมีการนำไปใช้กระทำผิดจริงก็จะเรียกเจ้าของบัฐชีมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

จากการตรวจสอบประวัตินายภักดี หรือไท แซ่อั้ง ปี 2556 ถูกดำเนินคดี แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน 2 คดีคดี ลักทรัพย์ 1 คดี ปี 2563 คดีฉ้อโกง 1 คดี คดีเกี่ยวกับพรบ.คอมพิวเตอร์ 1 คดี ปี 2564 คดีเกี่ยวกับพรบ.คอมพิวเตอร์ 2 คดี ฉ้อโกง 2 คดี แจ้งข้อความ 1 คดี และ ปี 2565 วิ่งราวทรัพย์ 1 คดี

ทั้งนี้ฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนอย่าให้คนอื่นยืมบัญชีธนาคารเพื่อรับโอนเงิน จากบุคคลอื่น ซึ่งอาจจะตกเป็นเหยื่อในการนำบัญชีไปรับเงินที่หลอกมาจากผู้เสียหายฃ (บัญชีม้า) มีโทษตามพระราชกำหนด มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.