ทำเอาหลายคนตกใจหนักมาก หลัง “เดลินิวส์ออนไลน์” ออกมาเปิดปมข่าวเมาท์ ลือสะพัด! “ดาราหน้าหล่อ” ดิ้นหนีตายหนี้สินรุมจากความใจดี สู้ชีวิตแล้วแต่กลับถูกซ้ำ! ไปในโลกออนไลน์ งานนี้คำใบ้มีอยู่ว่า “มีดาราหน้าหล่อคนหนึ่ง เขาหล่อมาก เก่งมาก และแสดงก็เริ่ดมาก แต่แล้ววันหนึ่งด้วยกาลเวลาและความใจดี ทำให้เขามีหนี้สินรุงรังไปหมด ต้องบากหน้ารับกรรมทำงานใช้หนี้ตัวเป็นเกลียว ไร้คนสร้างหนี้เหลียวแล แถมเขายังเอาตัวแทบไม่รอดมาแล้วหลายครั้ง ถ้าไม่ได้ภรรยาและลูกช่วยฮีลใจ ป่านนี้คิดสั้นไปแล้ว เอ๊ะ หรือเคยคิดมาแล้ว แต่เพราะคุณงามความดีพระเลยคุ้มครองกลับมา”

งานนี้เลยพากันเดาอย่างมากมายในโลกออนไลน์ว่าเป็นเรื่องราวของใครกันแน่ ล่าสุดดาราหนุ่มหล่อ ร๊อคกี้-สุรบดินทร์ สมบัติเจริญ ก็ได้ออกมาแจงปมที่โดนโยงแล้ว โดยยอมรับว่า เป็นตนเองจริงที่ยังคงมีหนี้ไม่จบสิ้นสักที รวมถึงตอนนี้หันมาขายของออนไลน์ก็ขายยากเต็มที

ล่าสุดในรายการ Daily POP ทางยูทูบ Dailynews LIVE-TH ของเดลินิวส์ออนไลน์ ก็ได้มีการเชิญหนุ่มร๊อคกี้ ออกมาเปิดใจเป็นที่แรก กับปมที่โดนดราม่าซ้ำเติมไม่หยุด

ก่อนหน้านี้มีข่าวเรื่องเพื่อนโกงเงินจนหมดตัว ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

“ถ้าพูดภาษาชาวบ้านทั่วๆ ไปเนอะ คนเขาเรียกว่าตกอับ เขาจะชอบใช้คำนี้กัน (ยิ้ม) ถ้าเกิดเราใช้นิยามว่าตอนนั้นคือคำว่าตกอับ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เรายังไม่ได้หยุดตะกายเลย ชีวิตมันยังไม่ได้กลับมาปกตินักหรอก ถ้าเทียบกันกับจุดที่ดีที่สุด จุดนี้ยังถือเป็นจุดที่แย่อยู่ แต่ถ้าไปเทียบกับจุดที่แย่ที่สุด ณ ตอนนั้น จุดนี้ก็ถือว่ายังดีกว่าหน่อยหนึ่งครับ”

มันมีดีและไม่ดีในตัวในปัจจุบันที่เกิดขึ้นใช่ไหม?

“ใช่ครับ ถ้าเปรียบเทียบเลยตอนนั้นชีวิตเราเหมือนคนมืดแปดด้าน เราเป็นคนระวังตัวมาก เราไม่ใช่สายดราม่าด้วย แต่เราไม่เคยเจออะไรที่มันโหดร้ายขนาดนี้กับชีวิตเลย ถ้าพูดตรงๆ นะ ตอนนั้นประจวบเหมาะกับหลายๆ อย่าง เช่น เรามีธุรกิจ ก็ค่อนข้างคิดว่าแข็งแรงประมาณหนึ่ง ทำมาหลายปีแล้วด้วย แล้วก็เติบโตดีอยู่แล้ว ทำเงินในบริษัทก็เป็นหลักล้านอยู่ ตัวเองมีเงินเก็บมีครอบครัวอยู่ แต่วันหนึ่งเราคิดว่าเราต้องขยับธุรกิจไปต่อแล้ว ซึ่งตอนนั้นเราก็คิดว่าเรามีสตางค์ของเราเหลืออยู่ก้อนหนึ่ง ที่เอาไว้เป็นทุนสำหรับดูแลคนที่บ้าน หรือไปเริ่มต้นทำใหม่ๆ เหมือนมีกระสุนอ่ะ เพื่อนคนนี้อยู่ข้างๆ เรามาตลอด เห็นทุกอย่างรอบตัวเรามาตลอด เราทำธุรกิจแบบนี้ เราคุยกับเพื่อนบ่อยๆด้ วยซ้ำไป เราก็ไม่คิดว่าสุดท้ายจะเป็นเขาที่ทำกับเราแบบนี้ ซึ่งเขาก็รู้ว่าครอบครัวกำลังจะมีเบบี้แล้ว เราไม่คิดว่าตัวเองจะมีลูกด้วยซ้ำไป แต่ศัพท์ผมนะ ก็คิดว่าทำไมคนที่ทุบเราทำไมต้องเป็นมันด้วยวะ เป็นคนใกล้ตัวที่สนิทกันมาก รวมทั้งคนรอบตัวก็รู้ว่าสนิทกันมาก แต่ทำแบบนี้กับเรา”

เงินที่เขายืมเราไป เป็นเงินก้อนสุดท้ายที่เรามีจริงๆ ใช่ไหม?

“เชื่อไหมว่า บางคนทุกวันนี้ยังไม่เชื่อเลยว่ามันคือเงินก้อนสุดท้ายของผมจริงๆ ผมบอกตรงนี้เลยว่ามันสุดท้ายจริงๆ คือเขาไม่ได้โอ้โลม หรือร้องไห้คุกเข่านะ แต่ด้วยความที่เราอยู่ข้างๆ กันตลอด เราเองก็เห็นปัญหาของกันและกันมา เพื่อนผมรู้จักกันมา ตั้งแต่ ม.1 มีประมาณ 30 ปีได้เลย”

ที่ผ่านมาเขาเสียเครดิตเรื่องเงินบ้างไหม?

“กับเราไม่นะ แต่กับคนอื่นไม่รู้ครับ เรารู้สึกว่าทุกธุรกิจมันต้องมีปัญหาแน่นอนอยู่แล้ว แต่ก็ผ่านกันมา เราเองก็เจอ เราช่วยกันดูแลกันตลอด”

แสดงว่าคาดหวังว่าจะได้เงินคืนถ้าให้ยืมไปใช่ไหม?

“เราไปช่วยเหลือเขา โดยที่รู้ว่าเขาก็มีปัญหาแบบเดียวกันกับเรา เขาเองก็รู้ว่าเราเองก็มีปัญหาแบบเขา เหมือนเตี้ยอุ้มค่อม (หัวเราะ) เราเลยคิดว่าล้มไม่ได้ ต้องช่วยกัน เพราะรู้จักกันมานาน”

มารู้สึกตอนไหนว่าเขาไม่คืน เล่าสักหน่อย?

“มารู้ว่าวันหนึ่ง เขาไปโผล่อยู่เมืองนอกแล้วติดต่อไม่ได้ ไปโผล่อเมริกา เราไม่รู้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เขามาปรึกษาเรา เขามีแม่อยู่อเมริกา เราก็บอกว่าถ้าทำแบบนี้ไปหาแม่ คนจะคิดว่าเอ็งหนีนะ มันจะดีเหรอ ถ้าคิดว่าจะทำแบบนั้นจริงๆ แต่วันที่เขาเลือกว่าไปแล้ว เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาไป เราก็ติดต่อเขาไม่ได้ แรกๆ แอบมือชาเท้าชา เป็นอาการที่อธิบายไม่ถูก ผมรู้จากคนอื่น เขาไปทำแบบนี้กับคนอื่นเหมือนกัน”

วินาทีที่รู้ว่าหมดตัวแล้ว รู้สึกอย่างไร?

“ตัดใจนะ วินาทีแรกหลอกตัวเองด้วยนะ ไม่หรอกๆ เพื่อนๆ ไม่ทำแบบนี้กับเราหรอก คือคนเช็กกันแล้วว่า ผ่าน ตม. ออกไปแล้ว ทั้งสามีและภรรยาเลย ทิ้งบ้านทางประเทศไทยไว้หมดแล้ว จนมีคนร้องไห้โทรฯ มาหาเราเยอะมาก ไม่ใช่เราคนเดียวโดน มีคนโดนเยอะมากกว่าเราอีก มีคนคิดว่าเราร่วมมือกับเขาด้วยนะ ตอนนั้นเราอยากตาย ไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว กว่าจะผ่านมาได้ยากมาก”

ล่าสุดถูกโยงปมตกอับซ้ำอีกรอบ คนแห่ซ้ำเติมเป็นอย่างไร?

“เรารู้สึกดีกว่าเมื่อก่อนเยอะนะ เราบอกเลยว่า ไม่ได้คิดอะไรกับคำนี้แล้ว คำว่าตกอับมันคือนิยามของแต่ละคนมากกว่า บางคนอาจจะเรียกว่าตบอับ หรือประสบปัญหาชีวิต เรียกอะไรก็เรียกเถอะ วันที่เราตก ถ้าใช้คำนี้ก็เรียกว่ายังไม่หยุดตะกายเลยอ่ะ อย่างที่บอก อาจจะเงียบไปบ้าง แต่ก็ยังทำตลอด ชีวิตเหมือนวัลลี มียายกับแม่ (ยิ้ม) แต่เราเป็นวัลลีเพื่อลูก ทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อลูกและทำทุกวัน ดีที่เพื่อนและคนอื่นๆ ให้กำลังใจ อย่างที่บอก อาจจะยังไม่ได้กลับมาร้อยเปอร์เซ็นต์ขนาดนั้น แต่อย่างน้อยมันก็ประคองชีวิตช่วงนี้ไปได้ แต่เราไม่อยากให้ชีวิตเราหรือคนมองเราแล้วแบบมึงเป็นอะไรอีกแล้ววะ เรารู้สึกว่าชีวิตเราพังไปแล้วหนึ่งรอบ ครั้งนี้มันสตาร์ตเลย เหมือน Begin Again มันเป็นภาค 2 แล้ว เป็นภาคอวสาน เราไม่อยากให้มันเป็นภาค 3 ภาค 4 หรือภาค 5 ต่อ เราอยากให้ภาค 2 จบ มันอาจจะเงียบไปบ้าง ก็ต้องขอบคุณรายการต่างๆ และ Daily POP ที่คิดถึงเรา ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรแล้ว เขาเริ่มสว่างหรือยังที่คนคิด วันนี้ดีขึ้นกว่าวันนั้นครับ”

มองย้อยกลับไปวันนั้นเจ็บไหมที่ถูกเขาหลอก?

“เรารู้สึกว่าถ้าเปรียบเทียบเป็นกราฟตอนนั้น มันดิ่งสุดแล้ว ตอนนี้มันถึงจุดที่กลับตัว กราฟกำลังกลับตัว มันไม่ได้ย่อลงไปใหม่ มันดีขึ้น แต่มันจะช้าๆ อยู่ มันไม่ได้พุ่ง เราก็กลัวนะ ขอให้อันนั้นที่โดนหลอกคือที่สุดแล้วเถอะ เราไม่เคยคิดไม่ดีกับใคร เราเป็นแบบนี้เพราะไปช่วยคน เราก็ท้อแท้ที่เป็นแบบนี้”

หนี้สินในปัจจุบันเป็นหลักล้านไหม?

“ก็ยังเป็นล้าน มันมีหลายส่วน ตอนนี้ผมจัดการชีวิตแบบนี้อยู่ จัดการเป็น 2 พาร์ท หนึ่งชีวิตเราและสองชีวิตหนี้ ชีวิตเราตอนนี้คือเริ่มชนเดือน แต่มันไม่ได้นิ่งขนาดนั้น ประคับประคองครอบครัวได้ มีข้าวกิน มีค่าน้ำค่าไฟค่าบ้าน แต่ชีวิตหนี้ทั้งในเรื่องธุรกิจที่ทำมา รวมทั้งธุรกิจอื่นๆ หรือไปช่วยคนอื่น อันนี้ยังไม่รอด พูดเลย”

ตอนนี้หันมาขายของออนไลน์ด้วยใช่ไหม?

“ตอนนี้ต้องบอกว่าเป็นรายได้หลักทุกอัน ขายของออนไลน์กับคุณยุ้ย จีรนันท์ มีขายผ่านเพจ “ร๊อคกี้ เอฟวี่ติง” ทั้งไทยและอังกฤษ ไปชมกันได้ครับ ผมไลฟ์ขายตลอด แต่ไม่ได้ขายดีตลอด มีวันที่ขายดีและไม่ดีด้วย งานในวงการก็มีกลับมาจัดรายการ ทำรายการวิทยุคลื่น FM 103 คนลูกทุ่ง ทุกอย่างอะไรก็ลิงก์กับออนไลน์ เป็นการฟังได้ทั่วโลก ผมจัดรายการ 14.00-17.00 น. จัดทุกวันจันทร์ อังคาร พุธ ครับ และมีขายของออนไลน์อีก แบ่งๆ กันไปทำทุกอย่างเลยครับ”

ทุกวันนี้เพื่อนคนที่ยืมเงินไปติดต่อมาบ้างไหม?

“ไม่เลย ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องจนถึงวันนี้ หายไปไหนก็ไม่รู้”

อยากบอกอะไรเขาไหมถ้าเขาดูอยู่?

“เคยคิดเหมือนกันว่าถ้าถูกถามคำถามนี้จะตอบว่าอะไร ผมอยากบอกว่า จริงๆ ไม่อยากสื่อสารหรือบอกอะไรเลย ถ้าให้บอกอะไรกับเขาก็ตายเถอะครับ อย่าไปเป็นภารลูกหลานหรือเป็นภาระให้ประเทศชาติเลย อย่าทำให้ใครเดือดเนื้อร้อนใจเลย ถ้าคิดได้ก็กลับมาดูแลคนอื่นบ้าง ผมก็ว่าผมหนัก แต่หนักกว่าผมจริงๆ ก็มี แต่ถ้าไม่ได้ช่วยอะไร หรือคิดไม่ได้ ก็ตายเถอะครับ อย่าเป็นภาระใครลูกหลานเลยเพื่อน”

ฝากช่องทางติดต่อสักหน่อย เผื่อใครอยากอุดหนุนอะไรเพิ่มเติม?

“ฝากด้วยนะครับ ทางเฟซบุ๊กชื่อ “ร๊อคกี้ เอฟวี่ติง” ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเลย ส่วนใครอยากฟังวิทยุก็ FM103 ครับ ฝากให้กำลังใจผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ”