หลังจากการจับสลากแบ่งกลุ่ม การแข่งขันฟุตบอล 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 23 พ.ย. รายการนี้แข่งวันที่ 15 เม.ย.-3 พ.ค.67
“ช้างศึกหนุ่ม” ทีมฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ของไทย ถูกจับให้อยู่ในกลุ่ม C ร่วมกับ ซาอุดีอาระเบีย ทีมแชมป์เก่าจากเมื่อปี 2022 พร้อมด้วย อิรัก และทาจิกิสถาน
ส่วนกลุ่มอื่นๆ กลุ่ม A – กาตาร์ (เจ้าภาพ), ออสเตรเลีย, จอร์แดน, อินโดนีเซีย/กลุ่ม B – ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, จีน/กลุ่ม D – อุซเบกิสถาน, เวียดนาม, คูเวต, มาเลเซีย
รอบแรก คัด 2 ทีมที่ดีสุดแต่ละกลุ่ม สู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย เตะแบบน็อกเอาต์ รายการนี้ คัดทีมไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. คัดเอา 3 อันดับแรกไปแข่งขันทันที ส่วนอันดับ 4 จะต้องไปเพลย์ออฟกับ กินี อันดับ 4 จากทวีปแอฟริกา
หลังการจับสลาก “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย ชุด 23 ปี กล่าวว่า พอใจกับผลการจับสลาก ถือว่ามีโอกาสเหมือนกัน เป็นเกมแบบออกได้ 3 หน้า ลุ้นชนะ-แพ้-เสมอ ได้ทั้งหมด มีเปอร์เซ็นต์ที่ลุ้นได้มากกว่าเดิม ดีกว่าที่จับไปอยู่ในกลุ่มญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ แบบกลุ่ม B ก็น่าจะเหนื่อยกว่านี้ โดยสำหรับ ซาอุดีอาระเบีย มีข้อมูลเพราะเคยเจอกันในโดฮา คัพ เมื่อปีก่อน แต่อีก 2 ทีมที่เหลือหาข้อมูลไม่ยาก เพราะเตรียมหาข้อมูลของทุกทีมที่เข้ารอบสุดท้ายเอาไว้อยู่แล้ว
เป้าหมายรายการนี้ อยากผ่านรอบแรกให้ได้ก่อน ซึ่งถ้าหากระบบการแข่งขันเป็นการไขว้เจอกับกลุ่ม D คงใส่เต็มทุกนัดหวังเข้าอันดับ 1 ของกลุ่มให้ได้ แน่นอนว่ามันเหนื่อย เพราะเจอทีมอย่างซาอุฯ หรืออิรัก แต่ถ้าหากทำได้ เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มได้ ก็จะไขว้เจอกับ เวียดนาม, มาเลเซีย หรือคูเวต ก็มีโอกาสมากขึ้นในการลุ้นเข้ารอบตัดเชือก