“ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอ วัน แชมเปียนชิพ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Squawk Box ของ CNBC Asia โดยเปิดเผยว่าตลอดปี 2566 ที่ผ่านมา ONE เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในทุก ๆ ด้าน พร้อมกล่าวถึงสถานการณ์ของ ONE ในปีที่กำลังมาถึง

“ตามรายงานของ Nielsen ปัจจุบัน ONE เป็นองค์กรทรัพย์สินทางกีฬาการต่อสู้ที่มีผู้รับชมมากที่สุดอันดับ 1 ของโลก และอยู่ในกลุ่ม 10 องค์กรทรัพย์สินทางกีฬาที่ใหญ่ที่สุดของโลกในแง่จำนวนผู้ชม อีกทั้ง ONE เดินหน้าสู่การสร้างรายได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 และประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567”

รายงานจาก Nielsen ล่าสุดยังระบุว่า ONE ติดอันดับในกลุ่มองค์กรทรัพย์สินทางกีฬาชั้นนำระดับโลกในแง่ของการเข้าถึงผู้ชมทั่วโลก และการมีส่วนร่วมของผู้คนบนโซเชียลมีเดีย โดยมีตัวเลขอยู่อันดับหนึ่งท่ามกลางบรรดาผู้จัดการแข่งขันกีฬาการต่อสู้ทั่วโลก

ONE มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน ONE มียอดการเข้าถึงผู้ชมมากกว่า 190 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้มียอดการรับชมเพิ่มขึ้นมหาศาล โดยขยายฐานผู้ชมจากฝั่งตะวันตกมาทางฝั่งอเมริกาเป็นครั้งแรกเมื่อต้นปี

จากสถิติการเติบโตของ ONE ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน จะเห็นว่ายอดรับชมทางทีวีรายชั่วโมง (Broadcast Hours), ยอดจำนวนผู้รับชม (Unique TV viewers), ผู้ติดตามทางโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม (Social Followers) และยอดรับชมวิดีโอออร์แกนิก (Organic Video Views) ต่างพุ่งขึ้นอย่างมหาศาลในระยะเวลาเพียง 5 ปี

อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมกีฬาเป็นพื้นที่เข้าถึงยาก ต้องใช้เวลาในการสร้างผลกำไร มีความเสี่ยงและต้องอาศัยการลงทุนสูง ซึ่งความสำเร็จของ ONE กำลังจะบรรลุผลที่คุ้มค่า

“ตัวชี้วัดการรับชมของเราเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากการถ่ายทอดสดที่เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าจาก 20 ครั้งในปี 2565 เป็น 60 ครั้งในปี 2566 มันน่าทึ่งมากที่ ONE ถ่ายทอดสดทุกสัปดาห์ไปยังกว่า 190 ประเทศทั่วโลก และที่สำคัญที่สุดคือ ONE กำลังอยู่ในเส้นทางที่จะบรรลุผลกำไรในธุรกิจหลักภายในครึ่งปีหลังของปี 2567”

นอกจากนี้ ประธานและซีอีโอ ของ ONE ยังประกาศที่จะกลับไปจัดการแข่งขันที่ญี่ปุ่นและตะวันออกกลางในไตรมาสแรกของปี 2567 อีกด้วย

แฟนกีฬาสามารถติดตามข่าวสารอัปเดตของ ONE ได้ทางเฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ ONEFC.com และอินสตาแกรม ONEChampTh