เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่นในนครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ซี่งช้ากว่าประเทศไทย 15 ชม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงการแก้ปัญหาหมูเถื่อนที่มีความล่าช้า จะมีการคาดโทษหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง “ดีเอสไอ-ปปง.” หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าไปเรียกว่าการคาดโทษดีกว่า เพราะต้องเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่มีงานเยอะ แต่ต้องอย่าลืมว่ามีการจับกุมหมูเถื่อนมานาน แล้วขบวนการทำลายหมูเถื่อนมีมานาน

โดยพบว่าผู้กระทำผิดมีประมาณ 10-11 ราย เริ่มมีการตรวจสอบไปแล้ว เพราะขนาดของความผิดมันใหญ่ จึงต้องส่งไปดีเอสไอ โดยตนได้สั่งการอธิบดีดีเอสไอไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว แต่มีความล่าช้า ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อย ได้รับผลกระทบจากช่วงที่มีหมูเถื่อนเข้ามาจำนวนมาก จนเกือบล้มเลิกกิจการ ซึ่งตนมีหน้าที่ไปติดตาม เพราะหากสาวไปไม่ถึงรายใหญ่ เหตุการณ์จะเกิดขึ้นอีก และเมื่อสังคมลืมก็จะเกิดขึ้นอีก ดังนั้นเรื่องนี้ต้องกำจัดให้สิ้นซาก เพราะเป็นภัยของสังคมจริงๆ

เมื่อถามว่านายกฯ กังวลหรือไม่ เมื่อมีภาพการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในลักษณะเกรี้ยวกราด นายกฯ กล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า ตนยอมรับว่าสั่งการเรื่องหมูเถื่อนให้รวดเร็วจริง ซึ่งตนได้เห็นภาพข่าวในการประชุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ตนมีหน้าที่ หากประเทศชาติมีปัญหาและไม่ถูกบริหารจัดการ ขอให้ดูที่ผลงานเป็นหลัก ตนอยากจะจัดการกับผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ต้องจัดการเรื่องนี้ให้ได้รวดเร็วที่สุด เพราะคนที่เดือดร้อนไม่ได้มีพื้นที่หน้าสื่อฯ ที่จะมาพูดเรื่องดังกล่าวได้ และขอให้ลงไปดูว่าผู้ประกอบการหมูรายย่อยได้รับความเสียหายในเรื่องนี้แค่ไหน เรื่องนี้เรายอมไม่ได้ คนทำผิดจะต้องถูกจับมาลงโทษ และกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นั่นคือความตั้งใจ