วันที่ 7 พ.ย. นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 66 ได้มีมติอนุมัติเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอในการใช้กลไกลของการปรับลดอัตราภาษีสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันประเภทน้ำมันเบนซินลง 0.15-1 บาทต่อลิตร และคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบให้ใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล E10-91 ลง 2.50 บาทต่อลิตร เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน นั้น

ล่าสุด ปตท.และบางจาก ได้ประกาศปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 2.50 บาทต่อลิตร และพรีเมียม แก๊สโซฮอล์ 95 ลดลง 1.00 บาทต่อลิตร E20 และ E85 ลดลง 0.80 บาทต่อลิตร ส่วน พรีเมียม ดีเซล และกลุ่มดีเซลคงเดิม​ ส่งผลให้ราคาขายปลีก น้ำมันหน้าสถานีบริการในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นดังนี้

น้ำมันเบนซิน ราคาอยู่ที่ 45.04 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 37.25 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 35.48 บาทต่อลิตร และโซฮอล์ E20 ราคา 35.14 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E85 ราคา 35.29 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ ไฮพรีเมียม 97 บางจากราคา 48.94 แก๊สโซฮอล์ ซูเปอร์พาวเวอร์ ปตท. ราคา 44.04 บาทต่อลิตร ส่วนราคาดีเซลไฮพรีเมียม ดีเซล B7 ปตท. ราคา อยู่ที่ 41.54 บาทต่อลิตร และบางจากอยู่ที่ 43.64 บาทต่อลิตร ขณะที่กลุ่มไฮดีเซล B7 ไฮดีเซล S และไฮดีเซล B20 S ราคา 29.94 บาทต่อลิตร ทั้งนี้ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบำรุงแต่ละท้องที่

“นี่คือหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลต้องการช่วยเหลือประชาชนด้วยการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลโดยกระทรวงพลังงานก็ได้มีการช่วยเหลือประชาชน ทั้งการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร รวมทั้งการลดค่าไฟให้เหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย พร้อมขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันและสถานีบริการ เตรียมน้ำมันแต่ละชนิดให้เพียงพอกับความต้องการ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ​ การลดราคาพลังงานครั้งนี้ เป็นเพียงแค่มาตรการแบ่งเบาภาระประชาชนระยะสั้น ส่วนการแก้ปัญหาเรื่องราคาพลังงานระยะยาวที่ยั่งยืนนั้น ทางรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานมุ่งเดินหน้าหาแนวทางปรับโครงสร้างราคาพลังงานอยู่” นางรัดเกล้า กล่าว