จากกรณี ผู้ใช้ติ๊กต็อก นำภาพการทำพิธีเบิกเนตรจิ้งจอกเก้าหาง โดย อ.หน่อย พลิกฟ้า ณ ศาลครูกายแก้ว รัชดา เพื่อให้ชาวบ้านมากราบไหว้บูชา อ้างว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เกิดความเมตตา เสน่ห์มหานิยม จึงเกิดคำถามมากมาย โดยเฉพาะบรรดาสายมูทั้งหลายนั้น

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ทีมข่าวเดินทางไปที่วัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามเรื่องราวดังกล่าว กับพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ว่า มันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงตามที่กล่าวอ้าง หรือเป็นการสร้างความงมงาย และความเชื่อที่ผิดเพี้ยน ตอนนี้สิงสาราสัตว์ก็กลายเป็นสายมู ทำให้มีจิ้งจอก 9 หาง โผล่มาขึ้นคู่กับครูกายแก้วกันอีก ขอให้ญาติโยมมีสติกันสักหน่อยเถอะ มีปัญญากันสักนิด เมื่อสมัยพระพุทธเจ้าดับขันธ์ใหม่ๆ เขาไม่รู้จะเอาอะไรมากราบไหว้ เขาก็ทำสัญลักษณ์ของความดี ความงาม ความใฝ่รู้ โดยทำเสมาไว้กราบไหว้ พระพุทธเจ้าใฝ่รู้มากถึงได้ตรัสรู้ เพราะความตรัสรู้ของพระองค์เหมือนกับตรีรัตนะ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ไว้ฟาดฟันกับโจรสามก๊กคือ โลภ โกรธ หลง เขาชอบความมีปัญญาสติและเหตุผล เขาไม่ได้ทำพิฆเนศ ท้าวเวสสุวรรณ ครูกายแก้ว ยิ่งจิ้งจอกเขาไม่มีเลย ในรูปต่างๆ นี้ รูปเคารพที่เป็นสัตว์มีน้อยมากและแทบจะไม่มีเลย

ถ้าพูดกันในกลุ่มของปราชญ์และบัณฑิตทางศาสนา เขาจะไม่เอาจิ้งจอก ตุ๊กแก สิงสาราสัตว์ มาไว้เป็นที่บูชา ถ้าบูชาพวกนี้ เขาเรียกว่า สมองเรานี้มันไม่ได้ก้าวขึ้นเป็นมนุษย์ ช่วยยกสติปัญญาของเรานี้ ให้มันสูงขึ้นหน่อย นับถืออะไรให้มันมีเหตุมีผล มีเครื่องเตือนใจ ไม่ใช่จิ้งจอก ตุ๊กแก ต่อไปสิงสาราสัตว์อะไรต่างๆ ก็จะเอาขึ้นมาเป็นที่กราบไหว้บูชานับถือ การนับถือสิ่งที่ไม่ประเสริฐ ไม่เจริญ คนที่นับถือก็จะประเสริฐขึ้นยาก เราต้องนับถือความประเสริฐความเป็นมนุษย์ มนุษย์ที่ดีที่สุดเป็นแบบพระพุทธเจ้าอย่างนี้ หรือเป็นพระเยซู เป็นพระนาปี เขาเรียกเป็นมนุษย์ประเสริฐ เป็นศาสดา จิ้งจอกไม่เคยเป็นศาสดา ทำไมเอามาไหว้ เอามากราบ “มันเลยเถิดไปแล้วโยม”