เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย วันนี้ศาลนัดสอบคำให้การ คดีอาญาหมายเลขดำที่ ท 118/2566 ที่พนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุย เป็นโจทก์ นายเดเนียล เจโรนีโม ซานโช บอลซาโตร์ หรือนายแดเนียล เจโรนีโม ซานโช บอลซาโดร์ เป็นจำเลย กระทำความผิดฐานความผิด ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือชิ้นส่วนของศพฯ

เมื่อวันที่ 2-3 ส.ค. 66 เวลากลางคืนหลังเที่ยงคืน ต่อเนื่องกันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยโดยมีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ได้วางแผนตระเตรียมการเพื่อฆ่า โดยได้บังอาจใช้กำลังประทุษร้ายนายเอดวิน อาเรียต้า อาทิกา อายุ 44 ปีเศษ สัญชาติโคลอมเบีย โดยการทำร้ายร่างกายด้วยวิธีการใดไม่ปรากฏชัดอย่างแรง จำนวนหลายครั้ง และถูกอวัยวะสำคัญของร่างกาย จนเป็นเหตุให้นายเอดวิน อาเรียตา อาทิกา ได้รับอันตรายแก่กายอย่างสาหัส และถึงแก่ความตายสมดังเจตนาฆ่า โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ภายหลังจากที่จำเลยได้กระทำความผิดดังกล่าว จำเลยได้บังอาจใช้มีดจำนวนหลายเล่ม และเลื้อยปังตอขนาดเล็ก จำนวน 1อัน ที่จำเลยตระเตรียมไว้ก่อนเป็นอุปกรณ์เครื่องมือมาใช้ในการตัด หั่นศพของนายเอดวิน อาเรียตา อาทีกา ออกจากกันเป็นจำนวนหลายชิ้น จากนั้นนำศพของนายเอดวิน อาเรียตา อาทีกา ห่อด้วยฟิล์ม ยึดแล้วทยอยเอาชิ้นส่วนศพดังกล่าว ใส่ถุงพลาสติกที่จำเลยเตรียมไว้ แล้วนำไปทิ้งในทะเลบริเวณหาดสลัด และบริเวณที่ทิ้งขยะภายในตำบลเกาะพะงัน ท้องที่หมู่ที่ 8 ตำบลเกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อปิดบังการตายของนายเอดวิน อาเรียตา อาทิกา

ชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซ่อนเร้น หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย ส่วนข้อหา ทำลาย ซ่อนเร้นเอกสารของผู้อื่นในประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน ไม่ขอให้การ

วันนี้ ฝ่ายผู้เสียหายไม่มีใครมาศาล ส่วนฝ่ายจำเลยมีบิดาของจำเลยมาศาล

จำเลยแจ้งความประสงค์ขอให้ศาลจังหวัดเกาะสมุย จัดหาล่ามภาษาสเปน โดยขอให้จำเลยเดินทางมาที่ศาลนี้ ดังนั้น ศาลเลื่อนไปนัดสอบคำให้การ ในวันที่ 13 พ.ย. 66 เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) ระวางโทษประหารชีวิตสถานเดียว ข้อหาซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุ แห่งการตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ซึ่ง ข้อหาทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ เอกสารของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท