กรณี น.ส.เอ๋ อายุ 42 ปี ถูกสามี คือ นายป๋อง อายุ 44 ปี ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตภายในห้องนอน บ้านปูนชั้นเดียว พื้นที่หมู่ 5 ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ สภาพร่างกายมีรอยฟกช้ำ ศีรษะมีรอยแผลเลือดออก ก่อนนายป๋อง จะแจ้งทางญาติว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัว โดยเบื้องต้นเผยสาเหตุมาจากการดื่มสุราจนเมาและมีปากเสียงกับ น.ส.เอ๋ เพราะเรียกชื่อตัวเองผิดเป็นชายอื่นชื่อว่า “นนท์” เหตุเกิดช่วงค่ำ 20 ต.ค. นั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังหนึ่ง บ้านคลองน้ำซับ ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านงานศพของ น.ส.เอ๋ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกของญาติพี่น้อง โดยนางน้อย อายุ 51 ปี พี่สาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า นายป๋อง และ น.ส.เอ๋ อยู่กินกันมาได้ปีกว่า ทั้งสองคนจะดื่มสุรากันเป็นประจำ พอเมาได้ที่ก็จะทะเลาะและตบตีกันเป็นประจำถึงขั้นเข้านอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล และเลิกรากัน 2-3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายเลิกกันไปแล้ว แต่พอมาช่วงงานแซนโฏนตา น.ส.เอ๋ กลับมาจากพัทยา นายป๋อง ก็มาบอกว่ากลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมจะให้เงินไว้ใช้ 20,000 บาท ก่อน น.ส.เอ๋ กลับไปอยู่ด้วยที่บ้านของนายป๋อง โดยไม่รู้ว่าจะเป็นวันที่ตัวเองเสียชีวิต

นางวงค์กมล อายุ 47 ปี เพื่อนบ้าน ผู้ถ่ายคลิปช่วงที่นายป๋อง ได้พูดรับสารภาพ และได้เข้ามาเปิดผ้า หอมแก้ม กอดตัว น.ส.เอ๋ ร้องไห้ ลักษณะสำนึกผิดครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกันนี้ยังได้ขอโทษญาติพี่น้องของภรรยากับเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกด้วย

นายป๋อง ได้เล่าถึงการทำร้ายร่างกายภรรยา ว่า ได้จับหัวโขกกำแพงห้อง และใช้ท่อแปบ PVC และสายยางชักโครกตีตามร่างกายจนทำให้เลือดออกในสมองและกระดูกต้นคอหัก หลังจากนั้นจึงอุ้มร่างไปอาบน้ำและพามานอนข้างกันจนถึงรุ่งเช้า ก่อนจะแจ้งญาติว่าได้ทำร้ายเมียจนตาย

เบื้องต้นทาง ร.ต.อ.วัชรากร ได้ตั้งข้อหา “ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” จากนั้นได้นำตัวนายป๋อง ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.