เทคโนโลยีที่มีการพูดถึงอย่างมากในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้น เมตาเวิร์ส (metaverse) ที่ว่ากันว่า จะมาเข้ามามีบทบาท ในยุคดิจิทัล
สามารถเชื่อมต่อทุกการสื่อสารบนโลกออนไลน์ มีการสร้างชุมชนบนโลกเสมือนจริง ที่มีสภาพแวดล้อม ที่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ และ กิจกรรมร่วมกันที่ใกล้เคียง หรือ เสมือนโลกแห่งความจริง!
ซึ่งในเวทีงาน The Global Tech Talk @SCBX NEXT TECH ที่สยามพารากอน ได้มีการให้ช้อมูลที่น่าสนใจจาก “เซบาสเตียน บอร์เกต” ผู้ร่วมก่อตั้ง และซีโอโอของ The Sandbox แพลตฟอร์มโลกเสมือนบนเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่ผู้เข้าร่วมสามารถสร้างและเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลรวมถึง NFT เและสามารถสร้างรายได้จากสินทรัพย์ดิจิทัลภายใน The Sandbox Metaverse
โดย ซีโอโอของ The Sandbox บอกว่า ในปัจจุบัน นั้นโลก มีชาวดิจิทัลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดย จากรายงานของสหประชาชาติ “World Population Prospects 2021” พบว่าปัจจุบันประชากรโลกมากกว่า 50% เป็นชาวดิจิทัล ซึ่งกลุ่มคนที่เติบโตมาในยุคดิจิทัล (Digital Native) เหล่านี้ มีการบริโภคคอนเทนต์ดิจิทัล โดยเฉลี่ยมากกว่า 12 ชม./สัปดาห์ ซึ่งมากกว่าการดูทีวี หรืออ่านหนังสือพิมพ์!!
นอกจากนี้ กลุ่มคน Gen Z หรือคนที่เกิดหลังจากปี 2538 ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ กว่า 75% ต้องการเป็น คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ หรือผู้สร้างคอนเทนต์ดิจิทัลเอง ไม่ว่าจะเป็นการ ออกแบบตัวละคร (คาแรคเตอร์) ของตัวเองในเกม เพื่อใช้เป็น ตัวตนของตัวเองต่อไปในระยะยาวบนโลกออนไลน์!?!
ขณะเดียวกันคนกลุ่มนี้ ยังยินดีจ่ายเงินไปกับกับคอนเทนต์ดิจิทัล และสินทรัพย์ดิจิทัล มากกว่าการซื้อสินทรัพย์ในโลกจริง!!
โดยในปี 65 ที่ผ่านมามีมูลค่าการทำธุรกรรมผ่าน NFT (Non-fungible token) สูงถึง 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ จำนวนผู้ใช้งานแพลตฟอร์มบน Web 3.0 ได้ทะลุหลัก 100 ล้านคนไปแล้ว!!
ด้วยเทรนด์ของชาวโลกดิจิทัล ทำให้เมตาเวิร์ส จึงเป็นโอกาสใหม่ของโลกธุรกิจ และแบรนด์ต่างๆ ที่จะเข้าถึงและสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ด้วยการที่มีการสร้างพื้นที่แบบเปิด 24 ชั่วโมง จึงเป็นแหล่งรวมความคิดสร้างสรรค์ เป็นช่องทางพบปะกับ กลุ่มเป้าหมายหรือแฟนของแบรนด์ เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน และมีคอนเทนต์ที่สร้างโดยผู้ใช้งาน ที่อยู่ในเมตาเวิร์ส
โดยในส่วนของ Sandbox ก็ได้จัดเตรียมระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) จากเครือข่ายพันธมิตรหลากหลาย วงการทั่วโลก รองรับเป้าหมายสูงสุดคือ การเพิ่มศักยภาพให้กับครีเอเตอร์ ในการสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ผ่านโลก เสมือนจริงบนโซเชียล (Social Immersive) ที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นเจ้าของสินทรัพย์และคอนเทนต์ดิจิทัลอย่างแท้จริง
ผู้ร่วมก่อตั้ง และซีโอโอของ The Sandbox บอกว่า ปัจจุบันแพลตฟอร์มเมตาเวิร์สของ The Sandbox มีผู้ใช้งานมากกว่า 5 ล้านบัญชี ครอบคลุม 150 ประเทศทั่วโลก และมีระบบนิเวศทางธุรกิจ ประกอบด้วย พันธมิตรระดับโลกจากวงการต่างๆ กว่า 700 ราย เป็นแหล่งรวมคอนเทนต์และแบรนด์ระดับโลกรวมทั้งของไทยกว่า 400 แบรนด์!?!
โดยครอบคลุม แฟชั่น กีฬา เกม เพลง บันเทิง การเงิน-การธนาคาร การศึกษา ช้อปปิ้ง เป็นต้น โดยมีเอเยนซี่มากกว่า 200 ราย สตูดิโอเกมกว่า 100 ค่าย รวมถึงสถาบันการศึกษา และพันธมิตรด้านเทคโนโลยี
“ 99% ของสิ่งที่อยู่บนเมตาเวิร์ส ถูกสร้างด้วยมือของผู้ใช้งาน และคอนเทนต์จากแบรนด์ต่างๆ และเปิดให้ผู้ใช้งาน ผสมผสาน และสร้างให้เกิดคอนเทนต์ใหม่ๆ บนเทคโนโลยี Blockchain มีความโปร่งใสและเชื่อถือได้ ในการพิสูจน์ความเป็นเจ้าของ โดยออกแบบให้ อวาตาร์ เป็นตัวแทนตัวตนในการทำกิจกรรมต่างๆ และเชื่อมต่อกับคนอื่นๆ ซึ่งเหล่านี้เป็นเสมือนการเตรียมพร้อมสิ่งที่จำเป็นในการสร้างรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัล ที่จะสามารถสร้างงานใหม่ให้กับคนอีกหลายล้านคน”
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองความตื่นตัวของประเทศไทยในเรื่องนี้นั้น ทาง “เซบาสเตียน บอร์เกต” บอกว่า ปัจจุบัน The Sandbox มีฐานผู้ใช้งานครีเอเตอร์ และแบรนด์พันธมิตรจากเอเชียราว 40% โดยประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญ 1 ใน 10 อันดับแรกของโลก และติด 1 ใน 5 ของเอเชีย บริษัทจึงมองเห็นโอกาสอย่างมากและเข้ามาเปิดสำนักงาน ในประเทศไทยแล้ว
ผู้ร่วมก่อตั้ง และซีโอโอของ The Sandbox ยังได้บอกถึงคนที่เข้ามาใช้งาน The Sandbox นั้น พบว่า คนหลากหลายวิชาชีพเข้ามาอยู่ในโลกเสมือน ทั้ง อาชีพ สถาปนิก นักออกแบบ บริษัทรับจัดงาน นักจัดการเนื้อหา และอื่นๆ นอกจากนี้หลายๆคนได้เข้ามาสร้างธุรกิจใหม่บนที่ดิน และ NFT ในโลกเสมือนแห่งนี้ จึงมองว่า ประเทศไทยอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่น (Prime Positions) ที่จะเก็บเกี่ยวโอกาสจากตรงนี้!!
“ที่ผ่านมาได้เข้าไปช่วยแบรนด์ในประเทศไทยสร้างประสบการณ์ผ่านกิจกรรมบน Sandbox ได้แก่ ทำงานร่วมกับทีมของ SCB 10X ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจทางการเงินของประเทศไทย ที่เข้ามาซื้อที่ดินตั้งสำนักงานใหญ่ บนเมตาเวิร์สของ The Sandbox รวมถึงการร่วมกับพันธมิตรสตูดิโอเกมในไทย ออกแบบเกมเล่นสงกรานต์เสมือนจริง มีผู้เข้าร่วมทั้งจากโลกจริง และเมตาเวิร์สรวมกว่า 22,300 คน ใช้เวลาเล่นเฉลี่ยต่อคน 23 นาที เป็นต้น”
ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ของโลก “เมตาเวิร์ส” จากมุมมองผู้พัฒนารายใหญ่ระดับโลก ซึ่งในอนาคตประเทศไทยคงมีความเคลื่นไหวที่น่าใจอย่างแน่นอน เมื่อไทยได้กลายเป็นตลาดที่สำคัญระดับโลกไปแล้ว!!
จิราวัฒน์ จารุพันธ์
