จากกรณีโลกออนไลน์โพสต์ข้อความว่า “#จังหวัดนนทบุรี แอดคะ ขอความช่วยเหลือหน่อยค่ะ พอดีหนูถูกคนเมาขับรถชน ขณะจะกลับไปทำงานในช่วงดึก แล้วทางคนชนเหมือนจะไม่รับผิดชอบอะไรเลย พ.ร.บ.รถก็ไม่มี ตอนเข้าโรงพยาบาลไม่มีการมาเยี่ยมหรือถามอาการใดๆ เลย ตอนนี้หนูอยากให้เขารับโทษที่เขาทำมากค่ะ เพราะหนูก็อาการสาหัส ฟันหน้าจากที่เคยมีร่วงหมดปาก แขนก็หักค่ะ แจ้งความไว้ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 66 ค่ะ ฝาก #เพจสายไหมต้องรอด ช่วยหนูด้วยนะคะ #ฝาก พี่ต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร., ผบช.ภ.1, ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ให้ความเป็นธรรมกับเหยื่อคนเมาแล้วขับด้วยนะคะ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 1”

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ต.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านสนามบินน้ำ จ.นนทบุรี พบกับ น.ส.สุวิมล อินทร์กอง หรือน้องสุ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้น ปวส. ปี 2 วิทยาลัยเทคโนโลยีวิมลบริหารธุรกิจ คณะบัญชี หลังถูกผู้ก่อเหตุขับรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน ขับชนท้ายรถ จยย. ที่เพื่อนขี่ โดยมีน้องสุซ้อนท้าย จนได้รับบาดเจ็บอาการโคม่า ฟันหน้าหัก 6 ซี่ แขนขวาหัก สะโพกขวาฉีกขาดเป็นแผลเย็บถึง 70 เข็ม นอนพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนานหลายวัน แต่คู่กรณีกลับไม่เคยเหลียวแลมาเยี่ยมเยียนหรือถามไถ่อาการ รวมทั้งไม่รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

น.ส.สุวิมล กล่าวว่า ตอนนี้อยากให้คู่กรณีมารับผิดชอบ เพราะตนใช้ชีวิตลำบากมากในการเคี้ยวข้าว แต่หากกินอะไรที่แข็งจะมีอาการปวดฟัน ต้องกินอาหารอ่อนๆ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อเข้ามาแล้วให้ข้อมูลว่า กำลังติดตามคดีให้อยู่ ส่วนตัวยังไปเรียนได้ อย่างไรก็ตาม จะต้องกลับไปทำงานแล้ว เพราะใบรับรองแพทย์หมดอายุ ลางานมาเกือบเดือน โชคดีที่ที่ทำงานเข้าใจ ตอนนี้รู้สึกไม่ดี เสียใจด้วย จากหน้าเคยสวยตอนนี้กลับเสียโฉม แผลเต็มใบหน้า ปีหน้ากำลังจะเรียนจบต้องรับวุฒิการศึกษาด้วย อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยเร่งดำเนินคดีกับคู่กรณีให้หน่อย ตอนนี้หน้าตาเสียโฉมไปเลย เวลาพูด เวลากิน ก็ลำบาก ทางบ้านก็ลำบาก ค่ารักษาเป็นคนออกเองทั้งหมด คดียังไม่คืบหน้าไปไหน ผ่านมาเป็นเดือนแล้ว

ด้าน น.ส.แวว แสงจัน อายุ 35 ปี แม่น้องสุ กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจมาก ไม่มีใครมารับผิดชอบน้องเลย ใช้ชีวิตลำบากมาก งานการทำไม่ได้ ต้องมาดูแลน้อง ก่อนหน้านี้ช่วงเกิดอุบัติเหตุแรกๆ ต้องสลับกับคุณพ่อเช็ดตัวน้อง เพราะตนก็ทำงาน จะจ้างคนมาดูแลก็ไม่ไหว ไม่มีเงิน ครอบครัวค่อนข้างฐานะยากจน อยากให้คู่กรณีมารับผิดชอบน้องบ้าง ไม่ใช่ชนแล้วหนีไป

ขณะที่ ร.ต.ท.วีรพล เกษกำจร พนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า ได้เรียกตัวคนขับรถกระบะมาตรวจวัดแอลกอฮอล์เรียบร้อยแล้ว พบว่าผู้ขับขี่มีอาการมึนเมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ 1 ข้อหา ส่วนข้อหาเพิ่มเติมอยู่ระหว่างรอผลแพทย์จากโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ยืนยันอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บ เพื่อจะได้เรียกคนขับรถมาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ส่วนรถกระบะทางพนักงานสอบสวน ได้ตรวจสภาพรถและถ่ายรูป ร่องรอยการเฉี่ยวชนเรียบร้อยแล้ว และได้ส่งคืนให้กับเจ้าของรถ เพื่อไปใช้งานได้ตามปกติ.