“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ทีมอันดับ 112 ของโลก จะลงสนามพบ เอสโตเนีย ทีมอันดับ 115 ของโลก ที่ อา เลอ ค็อก อารีนา วันที่ 17 ต.ค.66เวลาไทย 23.00 น. ถ่ายทอดสดช่อง 32 ในการอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์นัดส่งท้าย ก่อนเดินทางกลับไทย
ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (วันที่ 16 ต.ค.) มีการแถลงข่าว ที่ อา เล ค็อก อารีนา มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า เกมที่แล้วไม่ใช่เกมที่ดีสำหรับไทย(แพ้ จอร์เจีย 0-8) มีหลายปัจจัยที่ไม่เอามาเป็นข้ออ้าง ไม่ว่าจะเป็นนักเตะที่ไม่ได้มาตามที่เราต้องการ หรืออากาศที่หนาว ทุกอย่างไม่ใช่ข้ออ้าง ตอนนี้มีสมาธิไปที่การแก้ไขข้อผิดพลาดมากกว่า เพื่อให้ได้มีผลการแข่งขันที่ดีให้ได้ เอสโตเนีย เป็นทีมที่ดี และเล่นได้ดีในเกมที่ผ่านมา
มาโน กล่าวต่อไปว่า จอร์เจีย และ เอสโตเนีย ต่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะเรื่องร่างกายที่เหนือกว่าทีมไทยอย่างชัดเจน พยายามเน้นกับนักเตะให้เล่นตามที่เราถนัด คือการครองบอลให้ได้ดี และไม่เสียบอลง่ายๆ อากาศก็เป็นปัจจัยหนึ่ง พยายามปรับตัวให้เข้ากับอากาศที่หนาวเย็นที่นี่ให้ได้ดีกว่าเดิม ที่นี่หนาวกว่าที่จอร์เจีย มั่นใจว่าจะทำผลงานได้ดีกว่าเกมที่แล้ว
กุนซือช้างศึก กล่าวต่อไปว่าจากการวิเคราะห์เกมของไทย และเอสโตเนีย คิดว่าไทยน่าจะเปลี่ยนแผนการเล่น ทุกคนพร้อมที่จะทำผลงานให้เต็มที่ และทำให้ได้ดี ไม่ว่าใครจะได้ลงสนามก็ตาม
“ก่อนหน้านี้มีนักเตะไทยเล่นในต่างประเทศหลายคน ทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา ที่เคยไปสเปน และตอนนี้ก็มี ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่เล่นในเบลเยียม ก็หวังว่าเขาจะทำผลงานได้ดี นอกจากนี้ยังมีนักเตะไปเล่นเจลีก ก่อนหน้านี้และตอนนี้ ก็เป็นเรื่องดีสำหรับนักเตะไทย ที่ได้ไปเล่นอีกก้าวหนึ่งในต่างแดน ในเรื่องวัฒนธรรมต้องปรับตัว แต่ก็ช่วยให้เรามีนักเตะที่กลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม”
ส่วนดราม่าการเดินทาง ที่ต้องต่อหลายทอดนั้น มาโน กล่าวว่า “เรื่องการเดินทางน่าจะเป็นการเดินทางที่ดีที่สุดที่ทางสมาคมฯ ได้จัดให้เรา ไม่ใช่ข้อแก้ตัว เรามาถึงตั้งแต่ 2 วันก่อน ได้ฟื้นฟูร่างกายกันเต็มที่ ทุกคนได้กลับมามีสภาพสมบูรณ์แล้ว มีนักเตะแค่คนเดียวที่มีอาการป่วย(ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์) แต่นอกจากนั้นแล้ว ทุกคนพร้อมเต็มที่”