เมื่อวันที่ 13 ต.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยผลการจับกุม นายเอสนะ หรือ “เอส บางกระสอ” อายุ 43 ปี และ น.ส.ภัทรศนีย์ หรือ ภัทร ลำโพ อายุ 30 ปี สองสามีภรรยา ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยตำรวจชุด บก.สส.บช.น. และชุด PCT5 ร่วมกันจับกุมได้ ที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจาก กก.สส.บช.น.(สืบสวนนครบาล) ได้รับเรื่องร้องทุกข์ว่า นายเอสนะ มีพฤติการณ์โทรศัพท์หาผู้เสียหาย สวมรอยว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร หลอกลวงผู้เสียหายว่าเป็นหนี้บัตรเครดิต และยังไม่ได้ชำระ อีกทั้งยังพัวพันเรื่องคดีฟอกเงิน แจ้งให้ผู้เสียหายเดินทางไปที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ หากผู้เสียหายไม่สะดวก จะทำทีให้ผู้เสียหายแอดไลน์ที่สร้างขึ้น ก่อนส่งต่อให้อีกสายที่ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ เสนอว่าจะช่วยเหลือผู้เสียหายเรื่องหนี้บัตรเครดิต โดยให้โอนเงินจากบัญชีธนาคารไปเพื่อตรวจสอบความบริสุทธิ์และหากผู้เสียหายไม่ได้กระทำผิดจะโอนเงินคืนกลับไปให้ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไป ภายหลังก็ไม่ได้รับเงินคืนและติดต่อไม่ได้อีก เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายเฉพาะรายที่ร้องเรียนกว่า 50,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีพฤติการณ์สร้างบัญชีไลน์ปลอมขึ้นมา โดยอ้างตัวว่าเป็นนายทหารยศพันเอก มีการแสดงบัตรประชาชน บัตรข้าราชการทหาร (ปลอม) ทักมาทางไลน์ ทำทีจะขายเรือไฟเบอร์กลาสติดเครื่องยนต์ รถ จยย.เวสป้ามือสอง บ้านน็อกดาวน์ รถยนต์มือสอง เมื่อตกลงราคากันจนเป็นที่พอใจแล้ว ผู้ต้องหาจะทำทีแจ้งกำหนดนัดรับสินค้ากับผู้เสียหาย จากนั้นจะขอให้ผู้เสียหายโอนเงินมัดจำก่อนจำนวนหนึ่ง เมื่อผู้เสียหายโอนเงินให้แล้วและไปตามจุดที่นัดหมายรับสินค้า ปรากฏว่าไม่พบตัวผู้ขายและไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้อีก

ตำรวจชุดจับกุมจึงออกสืบสวนจนพบนายเอสนะ และ น.ส.ภัทรศนีย์ ทราบภายหลังว่าเป็นแฟนสาวของนายเอสนะ เดินออกมาจากอพาร์ตเมนต์ไม่ทราบชื่อ ซึ่งใช้เป็นสถานที่หลบซ่อนตัวในซอยเปี่ยมสุข ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงได้จับกุมตัวทั้งคู่ สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าช่วงต้นปี 2564 ได้มีคนรู้จักมาจ้างให้ตนทั้งสองไปเปิดบัญชีธนาคารต่างๆ แต่ละครั้งจะได้ค่าจ้างเปิดบัญชีคนละ 2,000 บาท โดยคนรู้จักที่จ้างบอกว่าจะนำบัญชีไปใช้ในธุรกิจโต๊ะพนันฟุตบอล เงินที่ได้จากค่าจ้างเปิดบัญชีจะนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและซื้อยาเสพติดมาเสพ

จากการตรวจสอบประวัตินายเอสนะ พบว่าปัจจุบันตกเป็นผู้ต้องหา 5 หมายจับ และสถานะคดีอยู่ระหว่างรอออกหมายจับอีก 4 คดี รวม 9 คดี ในหลายพื้นที่ โดยจะเป็นคดีเกี่ยวกับ ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และยาเสพติด