นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยภายในงานสัมมนาของการประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ครั้งที่ 2 ว่า ขณะนี้โลกได้ก้าวไปถึงทางแยกสำคัญที่ต้องเลือกระหว่างการเข้าสู่วิกฤติทางสภาพภูมิอากาศโลก กับการเดินเข้าสู่สภาวะความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยปัจจุบันเทคโนโลยีการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture & Storage: CCS) ถือว่า พิสูจน์แล้วว่ามีความเป็นไปได้และมีโครงการ CCS เกิดขึ้นมากกว่า 300 โครงการทั่วโลก

ทั้งนี้ในส่วนของประเทศไทย หากจะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ให้ได้ตามเป้าหมายจะต้องลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนให้ได้ถึง40 ล้านปี ถือว่า เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เพราะถ้าเทียบกับการปลูกป่า 1 ล้านไร่ จะสามารถลดปริมาณคาร์บอนได้เพียง 1-2 ล้านตันต่อปี

ดังนั้น ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานที่ปราศจากคาร์บอน ปตท.สผ.จึงมีโครงการทดลองกักเก็บคาร์บอนที่เกิดจากการผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่งอาทิตย์ในอ่าวไทย โดยมีเป้าหมายกักเก็บคาร์บอน 1 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2027 ด้วยเงินลงทุนประมาณ 300-400 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือมากกว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เนื่องจากโครงการ ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก และมีผู้ร่วมทุนจากต่างประเทศจึงอยากให้ภาครัฐมีการกำหนดกลไกทางด้านคาร์บอนเครดิต หรือภาษีคาร์บอน รวมถึงกฎระเบียบที่ชัดเจนในการติดตาม ตรวจสอบคาร์บอนที่กักเก็บ และภาระผูกพันต่าง ๆ ที่จะเอื้อให้โครงการนี้สามารถเกิดขึ้นได้.