เมื่อวันที่ 6 ต.ค. นางภูวณีย์ ทับมะลิผล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี และเป็นประธาน อสม. หมู่ 10 ของเทศบาลเมืองปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ชาวบ้านและผู้นำให้ความสนใจเกี่ยวกับโพลออนไลน์ของ นสพ.เดลินิวส์ เพราะตนได้ไปร่วมกิจกรรมทั้งผู้นำและภาคราชการและการเมืองเกือบทุกวัน จึงทราบว่าให้ความสนใจ โดยดูทางเฟซบุ๊กกันเป็นหลัก ในวันนี้ได้ร่วมกับ อสม. และข้าราชการครูโรงเรียนบ้านหัวนา จัดกิจกรรมรถรงค์เกี่ยวกับอุบัติเหตุ ชาวบ้านทราบข่าวว่าทีมข่าว นสพ.เดลินิวส์ มา จึงมาร่วมกันทำโพลกัน
นางภูวณีย์ กล่าวว่า เมื่อได้รัฐบาล ความหวังของเรา ตนได้ประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ระดับอำเภอและนักการเมือง-ข้าราชการระดับท้องที่ สิ่งแรกที่อยากให้รัฐบาลแก้ไข คือ อยากให้แก้กฎหมาย 1.เรื่องยาเสพติด พร้อมทั้งเรื่องกัญชา ส่วนหนึ่ง อยากให้นำกลับไปเป็นยาเสพติด ในส่วนกัญชาที่ต้องรักษาทางการแพทย์ ก็ต้องให้มีการวินิจฉัยจากแพทย์ ที่จะต้องเอามารักษาได้ อันนี้เราเห็นด้วย แต่หลักเลยให้อยากให้นำไปเป็นยาเสพติด ไม่ให้อิสระมากเกินไป จนนำพาทำให้เด็กเยาวชน เท่าที่ทราบมาในจังหวัดกาญจนบุรี 7 ขวบก็ติดยาแล้ว ผู้นำท้องที่หลายท้องถิ่นก็มาเล่าสู่กันฟัง ฉะนั้นแล้วกัญชาก็อิสระเกิน ส่วนที่ 2 แก้กฎหมายเรื่องยาเสพติด คนเสพไม่ใช่แค่บำบัด ต้องได้รับโทษด้วย และต้องโดนจำคุกเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะถ้าเสพแล้วเอาไปบำบัด จะเป็นการสร้างเครือข่าย แล้วทุกรายที่บำบัดไม่มีใครหาย กลับมาก็เป็นเหมือนเดิม ยกเคสในหมู่บ้านชุมชนดิฉัน ได้เข้ารับการบำบัดกกลับมา ก็คลุ้มคลั่งทำร้ายพ่อ แม่ พร้อมทั้งสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับคนในชุมชน ดิฉันก็เคยได้ให้โอกาสในการปรับพฤติกรรมแล้ว ก็ได้รับรองเป็นผู้ที่คุมประพฤติ ผลสุดท้ายเขาก็บำบัดไม่ได้ ก็ได้ทำลายข้าวของแล้วก็เอาเข้าเรือนจำไป ก็ต้องมีคดี ถ้าเสพแล้วเอาไปบำบัดไม่มีผล
ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ตำบลปากแพรก กล่าวว่า และกฎหมายเรื่องข่าวล่าสุด เยาวชนที่ทำความผิด ถ้าเป็นเยาวชน อายุ 12-14 ปี ถือว่าไม่มีความผิด ก็ต้องดูจากเหตุที่เกิด พฤติกรรมของเขาที่ทำ เช่น ถ้าเขาเกิดเป็นเหตุลหุโทษทั่วไป ก็ถือว่าไม่เป็นไร เป็นการให้โอกาสเด็กได้ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ แต่ถ้าเป็นการฆ่า จงใจฆ่า ไม่ได้ฆ่าแบบไม่ได้ตั้งใจ เป็นไปไม่ได้ อย่างเหตุที่เกิดเหตุยิงคนตาย แล้วข่าวออกมาทำให้สะเทือนใจว่า ผู้สูญเสีย กับ ผู้ที่ทำเขาแล้ว อยู่อย่างสบาย ก็อยากให้ท่านนายกฯ เศรษฐา ได้ดูหลักกฎหมาย 2 เรื่องนี้ หลักๆ เลย
นางภูวณีย์ ทับมะลิผล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ก็เรื่องด้านเศรษฐกิจ อยากให้มองเชิงรุกว่า คนที่สามารถทำมาหากินได้ ควรเปิดโอกาสให้เขาค้าขายได้ มีพื้นที่ มีนโยบายให้การจัดงานต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดตัวเอง ให้มองร้านค้า หรือผู้ประกอบการในพื้นที่ก่อน ก่อนที่จะนำบุคคลที่อื่นมาขาย ก็เป็นเบื้องต้น สิ่งที่เราคิดว่าเกี่ยวกับปากท้อง เกี่ยวกับชีวิตและทรัพย์สิน นี่คือสิ่งหลักๆ ถ้าแก้กฎหมายตรงนี้ได้ โดยกฎหมายนี้น่าจะเป็นหน้าที่ของผู้หลักผู้ใหญ่ เราเพียงแต่เป็นผู้สะท้อน ไม่ได้สะท้อนกับตัวเอง สะท้อนจากชาวบ้าน โดยเฉพาะข่าว 2-3 วันมานี้ สะเทือนขวัญ ทำให้เป็นที่กล่าวขานกันมาก ถ้าปรับเปลี่ยนแก้ได้ เอาเข้าสภาได้เลย ก็จะได้รับคะแนนนิยมในครั้งต่อไป.
